กรุงเทพฯ – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้เปิดเผยข้อมูล “กลุ่มหุ้น Dividend Universe 2025” ซึ่งเป็นรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีอย่างสม่ำเสมอ

โครงการ “กลุ่มหุ้น Dividend Universe” นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ประกอบด้วย:

• มีผลประกอบการที่ดีและมีกำไรสุทธิ
• มีสภาพคล่องในการดำเนินงาน โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
• มีคะแนนบรรษัทภิบาลในระดับ “ดี” ขึ้นไป

ผลการคัดเลือกสำหรับ “กลุ่มหุ้น Dividend Universe 2025” พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 150 บริษัท จากจำนวน บจ. ทั้งหมด 845 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน SET จำนวน 129 บริษัท และในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 21 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีบริษัทผ่านเกณฑ์ 141 บริษัท

เมื่อพิจารณาตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มธุรกิจบริการมีบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์มากที่สุด จำนวน 55 บริษัท รองลงมาคือ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 22 บริษัท และบริษัทใน mai 21 บริษัท อย่างไรก็ตาม หากเทียบสัดส่วนกับจำนวนบริษัททั้งหมดในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มเทคโนโลยี เป็นกลุ่มที่มี บจ. อยู่ใน Dividend Universe ในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่มีสัดส่วนถึง 55% ของจำนวน บจ. ทั้งหมดในกลุ่ม

ในด้านผลตอบแทนจากเงินปันผล บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มหุ้น Dividend Universe 2025 มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยช่วง 5 ปี (Average 5-year Dividend Yield) อยู่ที่ 4.20% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดโดยรวมที่ 2.89% อย่างชัดเจน โดยในจำนวน 150 บริษัทนี้ มีถึง 48 บริษัท ที่มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปี สูงกว่า 5% ต่อปี

ที่น่าสนใจคือ กลุ่มบริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe ชุด 5 ปี ที่มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปีสูงสุด 15 อันดับแรก มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 6.82% ถึง 14.27% โดยมีค่าเฉลี่ยรวมของ 15 อันดับแรกนี้สูงถึง 8.33%

นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า หลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SETESG (ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลโดดเด่น) มีสัดส่วนอยู่ในกลุ่มหุ้น Dividend Universe สูงกว่าดัชนีอื่นๆ และหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SETCLMV ทั้งหมด 30 หลักทรัพย์ ต่างก็ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเป็นบริษัทในกลุ่มหุ้น Dividend Universe ทั้งสิ้น

ฝ่ายวิจัย SET ย้ำว่า “กลุ่มหุ้น Dividend Universe” เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการช่วยคัดเลือกหุ้นปันผลสำหรับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอื่นๆ อย่างครบถ้วนรอบด้าน รวมถึงปัจจัยประกอบอื่นๆ ในการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้