สว.จิระศักดิ์ เผยยังไม่เห็นหมายเรียก ‘ดีเอสไอ-กกต.’ ปม ‘ฮั้วเลือก สว.’ ยันพร้อมกลับ กทม. ชี้แจงทุกข้อกล่าวหา
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายจิระศักดิ์ ชูความดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หนึ่งในกลุ่ม สว. ที่มีรายงานข่าวว่าถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหมายเรียกเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการสมยอมกัน (ฮั้ว) ในกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว
นายจิระศักดิ์ กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นหมายเรียกดังกล่าว เนื่องจากติดภารกิจเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่ต่างจังหวัด ยังไม่ได้กลับเข้าไปที่บ้านพักในกรุงเทพมหานคร จึงยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดว่าทั้งดีเอสไอและ กกต. ต้องการให้ตนเข้าชี้แจงในประเด็นใดบ้าง หรือถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องอะไร
ท่าน สว. จิระศักดิ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับการติดต่อหรือเรียกให้เข้าไปให้ข้อมูลใดๆ จากทั้งดีเอสไอและ กกต. เกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. หรือประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพิ่งจะทราบข่าวในวันนี้ว่ามีชื่อตนอยู่ในกลุ่มที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและได้รับหมายเรียก
อย่างไรก็ตาม นายจิระศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวลต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ต่างจังหวัดและเดินทางกลับกรุงเทพมหานครแล้ว จะรีบตรวจสอบเอกสารหมายเรียกดังกล่าวเพื่อดูรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงประเด็นข้อกล่าวหาที่ระบุไว้
“คงต้องกลับไปดูเอกสารว่าให้ชี้แจงเรื่องใดบ้าง และเตรียมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปชี้แจงตามขั้นตอนต่อไป” นายจิระศักดิ์ กล่าวย้ำถึงความพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการชี้แจงตามกฎหมาย
กรณีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการคัดเลือก สว. ชุดใหม่ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีข้อกังวลและข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการสมยอมหรือฮั้วกันในหลายระดับ ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างดีเอสไอและ กกต.
การออกหมายเรียก สว. ในครั้งนี้ ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญในการดำเนินคดีของหน่วยงานสืบสวนสอบสวนและองค์กรอิสระที่รับผิดชอบการเลือกตั้ง เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและนำข้อเท็จจริงมาสู่สาธารณะ
ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปคาดว่าจะเป็นการที่ สว. ที่ได้รับหมายเรียกจะต้องเดินทางไปชี้แจงต่อดีเอสไอและ กกต. ตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนด เพื่อให้ข้อมูลและพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาของตนเอง ก่อนที่หน่วยงานจะพิจารณาขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป