พอใจ กกต. ให้ความเป็นธรรม สว.ฉัตรวรรษ ชี้แจงข้อกล่าวหา “ฮั้ว สว.” ยันรับราชการ 30 ปีไม่การันตี? ถาม DSI ไร้อำนาจหรือไม่

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ชี้แจงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. ต่อ กกต. ยืนยันได้รับความเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อกังขาถึงอำนาจ DSI และ ป.ป.ง. ในคดีที่เกี่ยวข้อง ชี้การรับราชการ 30 ปี ควรเป็นเครื่องการันตีคุณสมบัติ

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ชุดที่ 26 ของสำนักงาน กกต. เกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า เบื้องต้น ทาง กกต. ได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย การกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2560, การรวมตัวกันในสถานที่ต่างๆ, การเข้าไปเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2567 และสถานที่โรงแรมประมาณ 4-5 แห่งในพื้นที่รอบปริมณฑล

ท่าน สว. ฉัตรวรรษ กล่าวต่อว่า ในการชี้แจง ทางเจ้าหน้าที่ กกต. ได้สอบถามว่าจากพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ตนได้รับผลประโยชน์อย่างไร ซึ่งตนได้สอบถามกลับไปว่า ตนได้รับประโยชน์ตรงไหน และเจ้าหน้าที่ได้ย้อนถามว่าตนได้รับประโยชน์คือการได้เป็น สว. ตนจึงได้ตั้งคำถามกลับไปว่า การที่ตนรับราชการมามากกว่า 30 ปี โดยไม่เคยมีปัญหา ควรจะเป็นเครื่องการันตีว่าตนมีคุณสมบัติเหมาะสมและได้รับเลือกโดยชอบ ไม่ใช่หรือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นประเด็นที่ตนต้องชี้แจงเพิ่มเติม

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยืนยันว่า การเข้าชี้แจงในครั้งนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นของ กกต. โดยรายละเอียดข้อกล่าวหาของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปตามพยานหลักฐานที่ กกต. ได้รับมา และตนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ กกต. ว่าหากมีประเด็นใดที่ยังไม่ครบถ้วน ตนพร้อมที่จะเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ท่าน สว. ได้ขอเอกสารเพิ่มเติมจาก กกต. เกี่ยวกับข้อกล่าวหาในทางพฤติการณ์ แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถให้ได้ในขณะนี้ และหากมีประเด็นเพิ่มเติม กกต. จะเรียกเข้าชี้แจงเอง

เมื่อถูกถามว่า คณะทำงานร่วมของ กกต. ได้ยกประเด็นข้อผิดพลาดที่เป็นรูปธรรมมาชี้แจงหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ระบุว่า ได้พูดคุยกันแล้วและเข้าใจกระบวนการดี เพราะ กกต. มีหน้าที่รับคำร้องจากทุกกลุ่ม และการดำเนินการขึ้นอยู่กับ กกต. โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากใครทำเกินอำนาจหน้าที่ก็ต้องว่ากันไป แต่เท่าที่พิจารณา คณะอนุกรรมการฯ ที่เชิญตนมาชี้แจง ถือว่าให้ความเป็นธรรมพอสมควรในการที่ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งตนได้ยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องไปแล้ว

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยอมรับว่ารู้สึกสบายใจขึ้นหลังได้เข้าชี้แจงกับ กกต. เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนคัดค้านมาตลอดเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะการได้มาซึ่ง สว. เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต.

ส่วนกรณีคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้อง ท่าน สว. ได้กล่าวถึงการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ซึ่งได้รับการยืนยันว่า การใช้การสันนิษฐานเรื่องจำนวนเงินโดยไม่มีตัวเงินเข้าข่ายการฟอกเงินนั้นไม่สามารถทำได้ ตนจึงเกิดความสงสัยว่า การกระทำของ DSI ในเรื่องนี้ อาจมีเจตนาบางอย่างแอบแฝงอยู่หรือไม่

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการสอบสวนที่สำนักงาน กกต. ตนไม่เห็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ DSI ร่วมอยู่ด้วย ส่วนใหญ่เห็นเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. ซึ่งน่าจะเป็นคณะกรรมการชุดที่ 26 ที่ดูแลเรื่องนี้ และในวันพรุ่งนี้ (21 พฤษภาคม) ตนจะเดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ยังไม่ได้ชี้แจงทั้งหมด

“ผมขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และไม่สามารถตอบได้ว่าตรงไหนมีความเสี่ยงบ้างในมุมของข้อกฎหมาย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาไต่สวนของ กกต. ครับ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวย้ำในท้ายที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *