รัฐสภา, 13 พฤษภาคม 2568 – ความเคลื่อนไหวที่รัฐสภายังคงเป็นที่จับตาของสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ได้มีหนังสือเชิญสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 54 คน เข้าชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับ ‘คดีฮั้ว’ หรือการสมยอมกันในการคัดเลือก สว. ซึ่งกำหนดวันเข้าชี้แจงระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้

หนึ่งในรายชื่อ สว. ที่ได้รับหนังสือเชิญดังกล่าว คือ นายอลงกต วรกี ได้ถูกผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาพยายามสอบถามถึงประเด็นนี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. ที่ผ่านมา

ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวพยายามซักถาม นายอลงกต ได้ปฏิเสธที่จะให้คำตอบในตอนแรก โดยกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ตอนนี้ไม่พูดถึงแนวทางแล้ว” ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับผู้สื่อข่าวถึงท่าทีการตอบสนองต่อหมายเรียก กกต. ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามย้ำอย่างตรงประเด็นว่า ครั้งนี้เป็นหมายเรียกของ กกต. จะเดินทางไปชี้แจงตามกำหนดหรือไม่ นายอลงกต ได้ตอบยืนยันอย่างชัดเจนว่า “ไปอยู่แล้ว” ถือเป็นการให้คำตอบที่แน่นอนเพียงคำเดียวในประเด็นสำคัญนี้

ภายหลังจากให้คำตอบสั้นๆ นายอลงกต ได้พยายามเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าว โดยพยายามเปิดประตูเพื่อเดินทางออกไปด้านนอก แต่เกิดปัญหาในการเปิดประตู ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือและนำทาง

ผู้สื่อข่าวยังคงพยายามสอบถามต่อถึงความรู้สึกกังวลในคดีนี้ และสอบถามว่าได้มีการพูดคุยหารือกับนายมงคล สุรสัจจะ ประธาน สว. รวมถึงสมาชิก สว. อีกกว่า 50 คนที่ได้รับหมายเรียกในกลุ่มเดียวกันนี้แล้วหรือไม่ แต่นายอลงกต ยังคงไม่ตอบคำถามใดๆ เพิ่มเติม

เมื่อถูกถามย้ำอีกครั้งว่า ได้มีการนัดหมายกันในกลุ่ม สว. ที่ถูกเรียกให้ “ปิดวาจา” หรือไม่ นายอลงกต ได้ตอบกลับมาเพียงสั้นๆ ด้วยเสียงที่ฟังดูอ้อมแอ้มว่า “อืม” ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

หลังจากนั้นไม่นาน นายอลงกต ได้เดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับแสดงท่าทีที่น่าสนใจ โดยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดบริเวณปาก ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบของในห้องประชุมและเดินทางออกจากพื้นที่ไปทันที ท่าทีดังกล่าวสร้างการตีความที่หลากหลายถึงประเด็นการ “ปิดวาจา” ที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปก่อนหน้านี้

สถานการณ์นี้บ่งชี้ให้เห็นถึงความตึงเครียดในหมู่ สว. ที่ถูก กกต. เรียกชี้แจงคดี “ฮั้ว สว.” แม้ว่านายอลงกต จะยืนยันการเดินทางไปชี้แจง แต่การพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามอื่นๆ และท่าที “ปิดปาก” ก็อาจสื่อถึงการหารือหรือตกลงร่วมกันในกลุ่ม สว. ที่ต้องเผชิญสถานการณ์นี้