สว.อลงกต ‘หว่อปู้ชัวฮว่า’ รัวภาษาจีนใส่นักข่าว หลังเคยใช้ฝรั่งเศส เลี่ยงตอบปมฮั้ว สว. และ กกต.

รัฐสภา, 20 พฤษภาคม 2568 – ที่รัฐสภาวันนี้ นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ได้ตกเป็นเป้าความสนใจของสื่อมวลชนอีกครั้ง หลังใช้ภาษาต่างประเทศในการเลี่ยงตอบคำถามสำคัญ เกี่ยวกับประเด็นการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในกรณีข้อสงสัยเรื่อง ‘ฮั้ว’ การเลือก สว. และประเด็นที่กลุ่ม สว. ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ตรวจสอบ กกต.

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อนายอลงกตเดินทางมาถึงรัฐสภา และพบกับผู้สื่อข่าว โดยได้ทักทายด้วยภาษาฝรั่งเศสว่า “Bonjour” (บงชูร์) ซึ่งแปลว่า “สวัสดี” ก่อนจะเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวไป

ต่อมา เมื่อนายอลงกตกลับมาอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความรู้สึกและรายละเอียดภายหลังการเดินทางเข้าไปชี้แจงข้อสงสัยต่อ กกต. เกี่ยวกับประเด็นการเลือก สว. ที่ถูกตั้งคำถามเรื่องการ ‘ฮั้ว’ ซึ่งนายอลงกตเลือกที่จะไม่ตอบคำถามดังกล่าว โดยมีท่าทีเม้มปากสนิท

ผู้สื่อข่าวยังคงพยายามสอบถามถึงกรณีที่มีกลุ่ม สว. ได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 จำนวน 7 คน ของสำนักงาน กกต. พร้อมขอให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาสั่งให้กรรมการชุดดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่นายอลงกตก็ยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นนี้เช่นกัน

หลังจากนั้น นายอลงกตได้หันมาพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาจีน โดยเริ่มต้นด้วยคำว่า “หนี่เมินห่าว” (Nǐmen hǎo) ซึ่งแปลว่า “สวัสดีพวกคุณ” จากนั้นได้พูดต่อว่า “หว่อปู๋ชั่วก่วน” (Wǒ bù chuò guǎn) ซึ่งเป็นวลีที่ผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนบางส่วนระบุว่าอาจจะไม่ใช่วลีมาตรฐาน หรือมีความหมายที่ไม่ชัดเจนในบริบทนี้ และพูดต่อด้วยประโยคที่ชัดเจนว่า “หว่อปู้ชัวฮว่า” (Wǒ bù shuō huà) ซึ่งแปลว่า “ผมไม่พูดแล้ว” หรือ “ผมไม่พูด”

ก่อนจะเดินจากไป นายอลงกตได้กล่าวปิดท้ายกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาจีนว่า “เซี่ยะเซียะหนี่เมิน” (Xièxie nǐmen) ซึ่งแปลว่า “ขอบคุณพวกคุณ”

พฤติกรรมการใช้ภาษาต่างประเทศในการเลี่ยงตอบคำถามของนายอลงกตครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอลงกตก็ได้เคยให้สัมภาษณ์และโต้ตอบกับผู้สื่อข่าวด้วยภาษาฝรั่งเศสมาแล้ว ทำให้การใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามในประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน กลายเป็นที่น่าสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สื่อมวลชนและประชาชน

สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของนักการเมืองในการรับมือกับแรงกดดันจากสื่อ ในช่วงที่ประเด็นการคัดเลือก สว. และบทบาทของ กกต. กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดจากสังคม.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *