ความคืบหน้าล่าสุดในคดีที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด กรณีการส่อฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. ได้เปิดโอกาสให้ สว. จำนวน 55 คน ที่ถูกกล่าวหาเป็นกลุ่มแรก ทยอยเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงและแก้ต่างตามกำหนดการ โดยมีบางส่วนได้เข้าชี้แจงไปแล้วในช่วงสองวันที่ผ่านมา และยังมี สว. ที่เหลืออีก 11 คน ตามคิวเข้าชี้แจงในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เช่น นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์, พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี, นายขวัญชัย แสนหิรัณย์, นางอจลา ณ ระนอง, นายโชคชัย กิตติธเนศวร และนายศุภชัย กิตติภูติกุล เป็นต้น

ที่น่าจับตาคือ นอกเหนือจาก สว. ที่ถูกกล่าวหาแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. ยังได้เริ่มทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก หรือ “คนนอก” ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง สว. โดยมีรายงานว่ามีบุคคลในกลุ่มนี้ราว 10 คนถูกเรียกเข้าชี้แจง

การที่ กกต. เรียกบุคคลภายนอกเข้าชี้แจงนั้น เกิดจากผลการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐานที่พบความเชื่อมโยงกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. โดยมีชื่อบุคคลสำคัญทางการเมืองและผู้มีบทบาทในท้องถิ่นปรากฏอยู่ในข่ายถูกเรียก ประกอบด้วย น.ส.วาริน ชินวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช, นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายวงศกร ชนะกิจ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย

นอกจากนี้ ยังมีชื่อของบุคคลระดับรัฐมนตรีและอดีตผู้บริหารในสภาฯ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งล้วนมีชื่ออยู่ในข่ายที่ กกต. อาจเรียกเข้าชี้แจง หรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่อยู่ในการสอบสวน โดยหลายรายที่ปรากฏชื่อยืนยันว่าพร้อมเข้าให้ข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอติดตามความชัดเจนกันต่อไป

ทั้งนี้ คดีความและการสืบสวนในส่วนของ กกต. นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในมือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเน้นการตรวจสอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและพฤติการณ์เข้าข่ายอั้งยี่

เป็นที่น่าติดตามว่า ในสำนวนของดีเอสไอ จะมีบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็น สว. เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกับสำนวนของ กกต. หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ในการประชุมกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการพูดถึงบุคคลระดับหัวหน้าพรรคการเมือง และอดีตรัฐมนตรี ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วเลือก สว. ด้วยเช่นกัน

ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่ม สว. อิสระ ที่ได้เข้าชื่อกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยให้ สว. ทั้ง 200 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยให้ดำเนินการต่อไป อาจเกิดปัญหาในภายหลัง หรือส่งผลให้การให้ความเห็นชอบดังกล่าวเป็นโมฆะได้

จากความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งการสืบสวนของ กกต. การดำเนินการของดีเอสไอ และการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าสังคมจะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นถึงขบวนการและตัวละครต่างๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีฮั้ว สว. นี้

นับจากนี้ไป คดีนี้จะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทุกฝ่ายต้องจับตาอย่ากะพริบตา