ก.ล.ต. สั่งปรับ 3 ผู้ถือหุ้น READY กว่า 233 ล้านบาท ฐาน “ปั่นหุ้น” ในวันซื้อขายวันแรก
กรุงเทพฯ – สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 3 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY ในวันซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 โดยสั่งปรับเป็นจำนวนเงินรวมกว่า 233 ล้านบาท พร้อมสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน
เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด 3 ราย ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ได้แก่ นายทวีรัช ปรุงพัฒนสกุล, นางสาวปาจรีย์ สมรรถกิจบริหาร และนางสาวพิชญาดา ศิริธง ได้ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณหลักทรัพย์ READY ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมีเป้าหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
พฤติกรรมของผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย แสดงให้เห็นถึงการแบ่งหน้าที่กันทำและการซื้อขายที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในวันซื้อขายวันแรกของหุ้น READY (22 กุมภาพันธ์ 2566) มีการกระทำในลักษณะทำราคาเปิด ด้วยการส่งคำสั่งซื้อดันราคาให้สูงขึ้น พร้อมทั้งเข้ากวาดซื้อหุ้นจากฝั่งเสนอขาย (offer) ในหลายช่วงราคาอย่างรวดเร็ว และมีการเสริมคำเสนอซื้อ (bid) อย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ราคาหุ้น READY ปรับตัวสูงขึ้น และกระตุ้นให้นักลงทุนรายอื่น ๆ สนใจเข้ามาซื้อขายตาม
จุดประสงค์หลักของกลุ่มผู้กระทำความผิดคือ เพื่อขายหุ้นที่ตนเองได้รับการจัดสรรจากการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และหุ้นที่ซื้อเพิ่มเติมในวันเกิดเหตุ เพื่อทำกำไรในราคาสูง นอกจากนี้ กลุ่มดังกล่าวยังมีการส่งคำสั่งซื้อขายโดยที่ทราบอยู่แล้วว่ากลุ่มของตนได้สั่งซื้อขายหลักทรัพย์เดียวกัน ในจำนวน ราคา และเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น READY
การกระทำของผู้กระทำความผิดทั้ง 3 รายข้างต้น ถือเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณหุ้น READY ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) จึงมีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ โดยกำหนดให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบของ ก.ล.ต. ดังนี้:
- นายทวีรัช ปรุงพัฒนสกุล: จำนวน 85,732,393 บาท
- นางสาวปาจรีย์ สมรรถกิจบริหาร: จำนวน 81,277,568 บาท
- นางสาวพิชญาดา ศิริธง: จำนวน 66,103,418 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 233,113,379 บาท
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 8.5 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 17 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่สูงสุดที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. มีมติไว้
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินที่ชดใช้คืนผลประโยชน์จากการกระทำความผิดทั้งหมดจะถือเป็นรายได้แผ่นดินเพื่อนําส่งกระทรวงการคลังต่อไป.