BANGKOK — ทีมค้นหาผู้สูญหายยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสอี) ได้เรียกบริษัท China Railway No. 10, อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และบริษัทที่ร่วมประมูลก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้มาชี้แจงข้อมูล หลังการตามรอยเงินพบการโอนเงินไปยังผู้บริหารชาวจีน 2 ราย

เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายแม้จะเป็นช่วงสงกรานต์ โดยใช้เครื่องจักรกลหนักขุดและเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางในกองซากปรักหักพังขนาดใหญ่ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 37 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 57 ราย ณ เวลาเที่ยงของวันเดียวกัน

นายอนุวัฒน์ พ่ออัมไพ จากมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า “วันนี้เป็นวันที่ 16 ของปฏิบัติการค้นหาแล้ว อุณหภูมิที่สูงมากทำให้เกิดความเหนื่อยล้าได้เร็ว เราจึงต้องสับเปลี่ยนทีมงานบ่อยขึ้น แม้จะเป็นสงกรานต์ เราก็ยังทำงานต่อเนื่องเพราะตั้งใจว่าจะตามหาผู้สูญหายให้พบทั้งหมดให้เร็วที่สุด แม้เดิมเราคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 16 เมษายน แต่ดูเหมือนว่าจะต้องขยายเวลาออกไปอีก ทีมงานของเรายังคงมีกำลังใจดี”

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสอี) กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กรมโยธาธิการและผังเมือง ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร ได้เก็บรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงตัวอย่างเหล็กและปูนซีเมนต์เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป

พ.ต.อ.สุรวุฒิ รังษาย deputy director-general ของดีเอสอี เปิดเผยว่าการทำงานของดีเอสอีแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การเก็บรวบรวมหลักฐานและการสอบสวน ซึ่งการสอบสวนมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยได้นัดหมายผู้เกี่ยวข้องในคดีการดำเนินธุรกิจของต่างชาติหรือคดี nominee ให้มาให้ข้อมูลระหว่างวันที่ 18 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคมนี้

ซึ่งรวมถึงบริษัท China Railway No. 10 Company Limited, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทอื่นๆ ที่ร่วมประมูลก่อสร้างอาคาร สตง. โดยการตามรอยการเงินเบื้องต้นพบการโอนเงินไปยังบุคคลชาวจีน 2 ราย ซึ่งดีเอสอีมีข้อมูลนี้แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้

พ.ต.ท.วรนาถ ศรีลำ DSI spokesperson เปิดเผยภาพรวมคดีอาญา 3 คดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสอี คดีแรกเป็นคดี nominee ซึ่งดีเอสอีได้สอบสวนไปแล้วเกือบ 50% และกำลังขยายผลเพื่อดูว่ามีการละเมิดกฎหมายการประมูลด้วยหรือไม่ โดยการเก็บรวบรวมหลักฐานนี้จะครอบคลุมถึงประเด็นมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับวัสดุก่อสร้าง และหากพบว่ามีมาตรฐานต่ำกว่าที่กำหนด จะมีการเพิ่มข้อกล่าวหา

คดีที่สองเกี่ยวข้องกับประเด็นภาษี ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากได้รับหนังสือจากกรมสรรพากรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขอให้ดีเอสอีสอบสวนการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัท Xin Kerhyuan Steel Company โดยพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าอาจมีเอกสารภาษีที่ไม่ถูกต้อง และกองคดีภาษีได้แยกคดีนี้ออกมาเป็นคดีพิเศษ

คดีที่สามได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 11 เมษายน หลังการตรวจสอบบริษัท Xin Ke Yuan Steel Company โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งดีเอสอีได้ร่วมสอบสวนด้วย รวมถึงประเด็นฝุ่นแดงจำนวน 40,000 ตัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยได้ตั้งทีมสอบสวนแล้วและรอการอนุมัติจากอธิบดีดีเอสอีก่อนจะดำเนินการประสานงานและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม