ชลบุรี – เกิดเหตุการณ์สุดระทึกกลางทะเลอ่าวบ้านอำเภอ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อเรือยอชต์หรูมูลค่าหลายล้านบาทเกิดเพลิงไหม้รุนแรงในเช้าตรู่วันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งระดมกำลังเข้าควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน โชคดีที่เจ้าของเรือสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.20 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 (ตามข้อมูลต้นฉบับ) โดยทางงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ว่าพบเห็นกลุ่มควันและเพลิงไฟกำลังลุกไหม้เรือยอชต์ลำหนึ่งที่จอดทอดสมออยู่บริเวณอ่าวบ้านอำเภอ ตำบลนาจอมเทียน

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าเรือยอชต์ที่เกิดเหตุมีชื่อว่า เรือเคมี่ ทะเบียน 500053626 เป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ขนาด 60 ตันกรอส สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 23 คน มีนายชิดชนก นาคน้อย อายุ 58 ปี เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ขณะเกิดเหตุ ทางท่าเรือโอเชียนมารีน่า ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ได้นำเรือเล็กพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงพื้นฐานออกไปให้การช่วยเหลือและสกัดเพลิงเบื้องต้นแล้ว

หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลนาจอมเทียน พร้อมด้วยภาคเอกชน ได้ระดมกำลังพร้อมนำเรือดับเพลิง เรือสปีดโบ๊ท และเจ็ตสกี เร่งเดินทางออกจากชายฝั่งไปยังจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการดับเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เทคนิคหลากหลาย รวมถึงการนำเจ็ตสกีเร่งเครื่องและหันใบพัดเข้าหาตัวเรือที่กำลังถูกเพลิงไหม้ เพื่อใช้แรงดันน้ำจากใบพัดช่วยในการสกัดเพลิง

ต้นเพลิงพบว่ามาจากบริเวณห้องเครื่อง ซึ่งอยู่กลางลำเรือ และกำลังโหมลุกลามไปยังส่วนห้องโดยสารและห้องบังคับเรืออย่างรวดเร็ว การปฏิบัติการดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากเพลิงมีความรุนแรงและตัวเรืออยู่ในทะเล อย่างไรก็ตาม ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด

นายชิดชนก นาคน้อย เจ้าของเรือ ได้เล่าถึงวินาทีเกิดเหตุว่า ในช่วงเวลาประมาณ 06.20 น. ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่บริเวณท้ายเรือ ได้กลิ่นคล้ายสายไฟไหม้ และเห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากภายในห้องเครื่องบริเวณชั้นล่าง จึงได้ลงไปตรวจสอบและพบว่ามีประกายไฟกำลังลุกไหม้อยู่ในห้องเครื่อง ตนได้พยายามใช้ถังดับเพลิงที่มีอยู่ฉีดสกัด แต่ไม่เป็นผล เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงอย่างรวดเร็ว ตนจึงตัดสินใจนำเรือยางที่มีอยู่หลบหนีออกมาจากตัวเรือเพื่อความปลอดภัย

นายชิดชนก คาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะมาจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องเครื่อง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเพลิงขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเรือยอชต์ลำนี้ ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านบาท ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบและประเมินจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง

นับเป็นความโชคดีอย่างยิ่งที่เหตุการณ์เพลิงไหม้เรือยอชต์ครั้งนี้ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.