เศรษฐินีนักบุญวัย 80 ปี สิ้นลมในท่าสมาธิปริศนา กลางนครพนม ทิ้งมรดกพันล้านในไดอารี่
นครพนม – พบศพเศรษฐินีพันล้านวัย 80 ปี ฉายา ‘อาจารย์แม่’ เสียชีวิตอย่างสงบในท่าสมาธิ ภายในอาคารพาณิชย์กลางเมืองนครพนม เพื่อนบ้านผิดสังเกตหายไป 2 วัน ตรวจสอบพบป่วยโรคประจำตัว ด้านญาติและลูกศิษย์เผยเป็นผู้ใจบุญ ชอบปฏิบัติธรรม มีทรัพย์สินมหาศาลกว่าพันล้านบาท คาดทำพินัยกรรมทิ้งไว้ในไดอารี่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.สัจจนันท์ บางทราย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องนอนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณสี่แยกเจ้าพระยา ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และรถกู้ชีพกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 38 โดยชั้นล่างเปิดให้เช่าเป็นร้านขายเสื้อผ้า ส่วนชั้น 2 เป็นที่พักของ นางเจริญศรี อรุณปราการ อายุ 80 ปี เจ้าของอาคาร ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่ลูกศิษย์ในนาม ‘อาจารย์แม่’ ทราบว่าผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่มีบุตร ส่วนญาติส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร
เพื่อนบ้านใกล้เคียงเล่าว่า คุณยายเจริญศรีเป็นคนชอบเก็บตัว มักจะเดินขึ้นห้องพักที่ชั้น 2 โดยใช้ประตูด้านข้างตึก แต่ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาไม่พบเห็นคุณยายตามปกติ ซึ่งผิดสังเกต เนื่องจากโดยทั่วไปลูกศิษย์จะนำอาหารมาแขวนไว้ให้ที่ประตูเหล็กด้านข้างตึกเป็นประจำ วันนี้พบว่ากุญแจถูกล็อกจากด้านใน จึงตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ
ลูกศิษย์จึงตัดสินใจปีนข้ามประตูเหล็กเข้าไปในตัวอาคาร และงัดประตูหลังเพื่อเข้าไปตรวจสอบ เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 2 ได้เคาะประตูห้องนอนของคุณยายอยู่นาน แต่ก็ยังคงเงียบ จึงคาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ให้มาตรวจสอบ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ร่วมกันงัดประตูห้องนอนที่ชั้น 2 ภายในห้องพบร่างของ คุณยายเจริญศรี นอนอยู่บนเตียงในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน เงยหน้าขึ้น และมือทั้งสองข้างประสานกัน คล้ายกับท่ากำลังนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม บริเวณใกล้เคียงพบขวดน้ำและซองยาจำนวนหนึ่ง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
แพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนมสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ไม่พบว่ามีบุคคลอื่นใดเข้าออกอาคารในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีเพียงคุณยายเจริญศรีที่เดินเข้าอาคารและเปิดประตูห้องพักเพียงผู้เดียว
ประธานชุมชนวัดโอกาส ได้ให้ข้อมูลว่า คุณยายเจริญศรีไม่มีญาติอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงคือสกลนคร จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ญาติรับทราบ พร้อมนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปเก็บไว้ที่ห้องดับจิตโรงพยาบาลนครพนม เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป
จากการสอบสวนประวัติ ทราบว่า คุณยายเจริญศรี อรุณปราการ เป็นเศรษฐินีผู้มีทรัพย์สินมหาศาล ทั้งอาคารพาณิชย์และที่ดินใจกลางเมืองนครพนม มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท เคยมีสามีแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ปัจจุบันใช้ชีวิตเพียงลำพัง เป็นผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก เข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร และเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือหลวงปู่วิริยังค์ สิรินฺธโร วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ คุณยายยังมีความเลื่อมใสในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของสถาบันพลังจิตตานุภาพ จึงได้ขออนุญาตจัดตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขาที่ 123 ที่วัดมหาธาตุ เมืองนครพนม และมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก ต่อมายังได้บริจาคที่ดินกว่า 10 ไร่ มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ริมถนนเข้าบ้านนาสมดี ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพแห่งใหม่ด้วย
คนใกล้ชิดของคุณยายเปิดเผยว่า คุณยายเจริญศรีมีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง ต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งควบคู่ไปกับการนั่งสมาธิ ท่านเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองนครพนม อาคารพาณิชย์ร่วม 10 คูหา เฉพาะราคาที่ดินก็มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ยังไม่รวมโฉนดที่ดินอีกกว่า 100 ไร่ เนื่องจากคุณยายอยู่ในครอบครัวเก่าแก่ของจังหวัดนครพนม ที่ดินในสมัยก่อนยังมีราคาไม่สูง ประกอบกับคุณยายไม่เคยคิดที่จะขายทรัพย์สมบัติ ทำให้มีที่ดินมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน
พ.ต.ท.สมพงษ์ แรงรอบ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ ได้เปิดเผยว่า หลังทราบเหตุการณ์ทางวิทยุ 191 ก็รีบเดินทางมาดู พบสภาพร่างของอาจารย์แม่ในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนคล้ายท่าสมาธิ เหมือนคนที่นอนหลับไปตามปกติ เชื่อว่าท่านอาจมีอาการของโรคประจำตัวกำเริบ และได้นั่งสมาธิกำหนดจิตจนกระทั่งสิ้นลม
ด้าน นางจันทร์เพ็ญ อุสุพันธ์ อายุ 67 ปี ลูกศิษย์อีกราย กล่าวว่า อาจารย์แม่มักจะโทรศัพท์ให้ตนเองไปรับไปส่ง เพื่อเดินทางไปยังสถาบันพลังจิตตานุภาพ ท่านเป็นคนอยู่อย่างสมถะ บางครั้งก็ปั่นจักรยานไปเอง ทุกเช้าลูกศิษย์จะนำอาหารมาใส่ถุงหิ้วแขวนไว้ให้ที่ประตูข้างอาคาร
นางจันทร์เพ็ญ ยังเล่าต่อว่า เท่าที่ทราบ อาจารย์แม่มีโฉนดที่ดินหลายใบ ชอบซุกซ่อนไว้ตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ หากหาไม่เจอก็จะเรียกตนเองไปช่วยหา ที่สำคัญคือท่านมีสมุดไดอารี่พกติดตัวตลอดเวลา และเคยพูดเปรยๆ ว่าทรัพย์สินที่ดิน ตึกอาคารพาณิชย์ต่างๆ เหล่านี้ จะมอบให้ใคร ทุกอย่างจะระบุไว้ในสมุดบันทึกเล่มนั้น เปรียบเสมือนพินัยกรรมที่อยู่ติดกายท่านเสมอ
นายภราดร วิเศษสุนทร อายุ 52 ปี ลูกพี่ลูกน้องของคุณยายเจริญศรี กล่าวว่า คุณพี่เจริญศรีเป็นคนโสด ญาติสายเลือดโดยตรงที่ทราบมีเพียงน้องสาว คุณพี่เป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้คน และทำนุบำรุงพระศาสนา การบริจาคต่างๆ เป็นเรื่องส่วนตัวที่ท่านทำอย่างเงียบๆ
นายภราดร เสริมว่า ทราบว่าคุณพี่บริจาคไปเยอะพอสมควร ลูกศิษย์ส่วนใหญ่จะเรียกคุณพี่ว่าอาจารย์ หรืออาจารย์แม่ ท่านเป็นประธานผู้ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพสาขานี้ ส่วนเรื่องทรัพย์สินและพินัยกรรมตนเองไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด หากท่านจะบริจาคให้การกุศลก็ไม่ติดขัด
ขณะที่ นายพนมพร ชวนอุดม อายุ 53 ปี หลานผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คุณอานั้นเคยพักอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนจะมาเปิดสถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขานครพนม จึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน เคยทราบว่าคุณอาเคยล้มในห้องน้ำและไปรักษาตัวจนหายดี ก่อนจะเดินทางกลับมาที่นครพนม กระทั่งเสียชีวิต ส่วนการเสียชีวิตในท่านอนสมาธิแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนน้อยรายมาก ถือว่าคุณอาเป็นคนพิเศษ ส่วนเรื่องพินัยกรรมที่ระบุไว้ในไดอารี่ คุณอามีเจตนาจะบริจาคให้การกุศล ซึ่งตนเองไม่ขัดข้องและขออนุโมทนาบุญด้วย
สำหรับศพของคุณยายเจริญศรี อรุณปราการ จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยมีกำหนดพิธีฌาปนกิจในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น.