โปรดเกล้าฯ สถาปนา “พระพรหมวชิรคุณาธาร” วัดศรีสุดาราม เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง

กรุงเทพมหานคร – เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เชิญหิรัญบัฏและเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวายแด่พระพรหมวชิรคุณาธาร ณ วัดศรีสุดาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

การนี้ เป็นไปตามพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดสถาปนา พระธรรมวชิรคุณาธาร ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวชิรคุณาธาร ไพศาลสังคหกิจโกศล วิมลสีลาจารนิวิฐ พิสิฐสิกขการปรีชา สาธกธรรมวิจิตร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดศรีสุดารามวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ทรงมีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป

พระพรหมวชิรคุณาธาร มีนามเดิมว่า โกศล สิริพรหมคุณ ปัจจุบันสิริอายุ 75 ปี พรรษา 55 เป็นพระนักการศึกษา นักสังคมสงเคราะห์ และพระนักปกครอง ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดระเบียบการบริหารงานของคณะสงฆ์ รวมถึงเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร และที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

ย้อนประวัติ พระพรหมวชิรคุณาธาร เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2493 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรพชาเมื่อปี พ.ศ.2505 และอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2513 ณ วัดอินประชาราม จังหวัดนครนายก โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปุ่น) วัดพระเชตุพนฯ เป็นพระอุปัชฌาย์

ด้านการศึกษา ทรงมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมจนสำเร็จชั้นสูงสุด และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ถึง 2 สาขา ทั้งสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2531 เป็นเจ้าคณะแขวงบ้านช่างหล่อ ปี พ.ศ.2555 และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559

สำหรับลำดับสมณศักดิ์ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์มาโดยตลอด ตั้งแต่ชั้นสามัญ ชั้นราช ชั้นเทพ (2 ครั้ง ในราชทินนามที่ พระเทพประสิทธิมนต์ ปี 2557 และ พระธรรมวชิรคุณาธาร ปี 2567) กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2568 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมวชิรคุณาธาร

พระพรหมวชิรคุณาธาร เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะพระนักพัฒนา มีบทบาทสำคัญในการเป็นประธานดำเนินการก่อสร้างและพัฒนาสาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ การก่อสร้างอาคารศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทางสติปัญญาแบบครบวงจร รวมถึงเป็นประธานในการสร้างโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ (ปี 2539), โรงพยาบาลรัตนประชารักษ์ (ปี 2556), ศูนย์เวชศาสตร์เขตเมืองราชพิพัฒน์ฯ และอาคารคิลานุปัฏฐาก (ปี 2561), อาคารเมตตาธรรม ดร.สุธาสินี นิติสาครินทร์ ศูนย์โรคหัวใจและไต โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาและวิจัย โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ (ปี 2565), โรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสาโร) (ปี 2566), โรงพยาบาลบุษราคัมจิตการุณย์ (ปี 2567) นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่เขตทุ่งครุและเขตดอนเมืองที่กำลังดำเนินการอยู่

การได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองในครั้งนี้ ถือเป็นการยกย่องคุณูปการของพระพรหมวชิรคุณาธารที่มีต่อคณะสงฆ์ สังคม และประเทศชาติมาอย่างยาวนาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *