กรุงเทพฯ – สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC จัดการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจระดับโลก Bangkok Business Challenge 2025 powered by SCGC ซึ่งถือเป็นเวทีสำหรับนิสิตและนักศึกษาที่ยาวนานที่สุดในเอเชีย จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 ภายใต้แนวคิด “Growing Impactful Ventures” มุ่งเฟ้นหาสุดยอดสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความท้าทายของโลกทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม.

การแข่งขันครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญให้คนรุ่นใหม่ได้นำเสนอแนวคิดธุรกิจ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเครือข่าย และต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับสากล โดยรอบการแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2568 ณ สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์.

นายดิเบียนดู โบส (Dibyendu Bose) รองผู้อำนวยการกำกับดูแลฝ่ายยุทธศาสตร์ นวัตกรรม และการพัฒนา สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ กล่าวถึงความมุ่งมั่นของศศินทร์ในการพัฒนาผู้นำที่สามารถสร้างอิมแพคอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำว่าการแข่งขันปีนี้สะท้อนทิศทางธุรกิจสตาร์ตอัปที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โดยพบว่าเกือบ 50% ของสตาร์ตอัปในพอร์ตโฟลิโอของศศินทร์อยู่ในกลุ่มธุรกิจเติบโตสูง อาทิ เทคโนโลยีการแพทย์ (MedTech) เทคโนโลยีสุขภาพ (HealthTech) เทคโนโลยีเกษตร (Agri Tech) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งล้วนนำเสนอแนวทางนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคต.

ด้าน ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ (Suracha Udomsak) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการและนวัตกรรม SCGC เปิดเผยว่า SCGC ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านโพลิเมอร์และโซลูชันเพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์ควบคู่ไปกับความยั่งยืน ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน SCGC มีการคิดค้นและวิจัยสิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนา Green Polymer หรือการคิดค้นเทคโนโลยี SMX เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดพลาสติก การร่วมมือกับศศินทร์ในการจัด Bangkok Business Challenge 2025 ถือเป็นโมเดลสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเปิดโอกาสให้ไอเดียใหม่ ๆ ได้เติบโตสู่เชิงพาณิชย์ ดร.สุรชาเชื่อมั่นว่าสตาร์ตอัปคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมท่ามกลางความท้าทายทางธุรกิจ พร้อมให้กำลังใจทุกทีมใช้โอกาสนี้พัฒนาศักยภาพและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมในระดับสากล.

การแข่งขันในปีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก มีทีมสมัครเข้าร่วมทั้งสิ้น 308 ทีม เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน มาจาก 82 สถาบันอุดมศึกษาทั่วโลก โดยมีถึง 32 สถาบันที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรก การตัดสินจะดำเนินการโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมากประสบการณ์ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมที่คู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรติ ได้แก่ รางวัลเกียรติคุณพระราชทาน H.M. The King’s Award จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และรางวัลเกียรติคุณพระราชทาน HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Sustainability Award จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ พร้อมรางวัลเงินสดรวมมูลค่า 42,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,500,000 บาท.

สำหรับ 20 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ได้แก่:

• AGAP.AI, Asian Institute of Management, Philippines
• AgriConnect, Ateneo de Manila University, Philippines
• Beyond Connected, Sasin School of Management, Thailand
• CELLECT Laboratories, University of Waterloo, Canada
• CERO, School of Integrated Innovation (ScII), Chulalongkorn University, Thailand
• DeliGence, National Yang Ming Chiao Tung University, Taiwan
• Edversity, Pak-Austria Fachhochschule: Institute of Applied Sciences and Technology, Pakistan
• HappEar, National Yang Ming Chiao Tung University, Taiwan
• Humimic Biosystems, University of Arkansas, United States of America
• inspecTD, National Yang Ming Chiao Tung University, Taiwan
• Joy to the world, Naresuan University, Thailand
• Krufarm, Asian Institute of Technology, Thailand
• Krumap, Sasin School of Management, Thailand
• LOCOL, Chulalongkorn University, Thailand
• MabLab, Harvard University, United States of America
• NeuroFore, Washington University in St. Louis, United States of America
• PinaClean, Shanghai Jiaotong University, China
• PowerBite, Bangladesh University of Engineering and Technology, Bangladesh
• Protenere, Thammasat University, Thailand
• PulseArk Technologies, University of Arkansas, United States of America

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/bangkokbusinesschallenge หรือติดต่อสอบถามได้ที่อีเมล์ bbc@sasin.edu.