อ่างทอง – เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นที่บริเวณกระท่อมกลางนา คลองลำท่าแดง ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังถูกฟ้าผ่าจนเกิดไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เคราะห์ดีที่สารวัตรกำนันซึ่งนอนหลับอยู่ภายในรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด โดยเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพระสมเด็จที่พกติดตัวมานานกว่า 30 ปี

กระท่อมหลังดังกล่าวมีลักษณะคล้ายบ้านน็อคดาวน์ ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 4 เมตร ซึ่งปลูกไว้เป็นที่พักและสำหรับเฝ้าดูแลสวนกับบ่อปลาให้กับกำนันตำบลย่านซื่อ จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ากระท่อมถูกเพลิงไหม้เสียหายจนหมดสิ้น เหลือเพียงเสาปูนและเศษไม้บางส่วนที่ยังมีควันไฟคุกรุ่นอยู่ นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ 2 คันถูกไฟไหม้บางส่วน รวมถึงทรัพย์สินภายในกระท่อม เช่น พัดลม เครื่องตัดหญ้า ตู้ลำโพง และเสื้อผ้า ก็ถูกเพลิงเผาวอดไปทั้งหมด

นายทรงพล มั่งนิมิตร หรือสารวัตรต๊ะ อายุ 60 ปี ตำแหน่งสารวัตรกำนันตำบลย่านซื่อ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นว่า ในช่วงเวลาประมาณตีสามของวันที่ 2 พ.ค. ขณะที่ตนเองกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในกระท่อมกลางนา ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีฝนสาดเข้ามาภายในกระท่อมจนต้องตื่นขึ้นมา ระหว่างนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงเข้ามาที่บริเวณกลางกระท่อมอย่างรุนแรง

หลังจากถูกฟ้าผ่า ก็เกิดประกายไฟและเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วภายในกระท่อม นายทรงพลตกใจมากและรีบตะเกียกตะกายหนีออกมาจากกองเพลิงได้อย่างเฉียดฉิว โดยได้เข้าไปหลบอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ๆ จากนั้นจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้กำนันเจ้าของกระท่อมเข้ามาตรวจสอบ

เมื่อกำนันมาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าเพลิงได้ไหม้กระท่อมจนเสียหายทั้งหลัง และข้าวของเครื่องใช้ภายในก็ถูกเพลิงเผาวอดไปส่วนใหญ่ นายทรงพลเปิดเผยว่า การที่ตนเองสามารถหนีรอดจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าและไฟไหม้ครั้งนี้มาได้อย่างปาฏิหาริย์ เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะดวงยังไม่ถึงฆาต แต่สิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นว่าเป็นของดีที่ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยมาตลอดคือพระสมเด็จองค์เดียวที่ลุงแท้ๆ ได้มอบให้มา และตนเองก็พกติดตัวอยู่ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลามานานกว่า 30 ปี ซึ่งเชื่อว่าบารมีของพระเครื่ององค์นี้เองที่ช่วยคุ้มครองให้ตนเองรอดพ้นจากอันตรายถึงชีวิตในครั้งนี้