กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF พร้อมด้วย นางนลินี รัตนาวะดี และนางสาวสิตมน รัตนาวะดี ในนามครอบครัวรัตนาวะดี และมูลนิธิกัลฟ์ ได้เดินทางเข้ากราบสักการะและถวายปัจจัยแด่พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค 11

ในการนี้ ครอบครัวรัตนาวะดีและมูลนิธิกัลฟ์ ได้มีศรัทธาอันเป็นกุศล บริจาคปัจจัยเป็นจำนวนเงิน 41,000,000 (สี่สิบเอ็ดล้านบาทถ้วน) แก่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เพื่อเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์โครงการบูรณะอาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม สมเด็จพระสังฆราชญาโณทยมหาเถร พ.ศ. 2501 โดยมีพระพรหมสิทธิเป็นผู้รับการถวาย พร้อมด้วยพระพระเทพปฏิภาณกวี เจ้าคณะเขตภาษีเจริญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และคณะสงฆ์วัดสระเกศ ร่วมเป็นสักขีพยาน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การบริจาคในครั้งนี้มีขึ้นในโอกาสสำคัญที่นายสาริศ รัตนาวะดี บุตรชายของนายสารัชถ์และนางนลินี รัตนาวะดี ได้อุปสมบทเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมเบื้องต้นอยู่ที่วัดสระเกศ โดยมีพระพรหมสิทธิเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งพระสาริศได้รับนามฉายาว่า สิทฺธิสาโร แปลว่าผู้มีความสำเร็จหรือความชอบธรรมเป็นสาระ สะท้อนถึงความมักคุ้นและความเคารพนับถือระหว่างครอบครัวรัตนาวะดีกับวัดสระเกศและพระพรหมสิทธิมายาวนาน

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าสักการะพระพรหมสิทธิ และร่วมถวายอาหารเพลแด่พระสงฆ์วัดสระเกศ พร้อมกับครอบครัวของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ พระพรหมสิทธิถือเป็นพระเถระที่ตระกูลชินวัตรให้ความเคารพและเลื่อมใสศรัทธาต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ

สำหรับอาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม สมเด็จพระสังฆราชญาโณทยมหาเถร พ.ศ. 2501 ซึ่งมูลนิธิกัลฟ์เป็นเจ้าภาพร่วมบูรณะในครั้งนี้ เป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ภายในวัดสระเกศฯ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 โดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ญาโณทยมหาเถระ (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

เดิมอาคารนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนบาลีอบรมศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต่อมาได้ใช้เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณรเพื่อศึกษาหลักสูตรนักธรรมและบาลี รวมถึงเป็นสถานที่จัดสอบบาลีสนามหลวงสำหรับพระภิกษุสามเณรจากทั่วประเทศมายาวนานกว่า 60 ปี ปัจจุบันอาคารอยู่ในสภาพทรุดโทรม การบูรณปฏิสังขรณ์ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้อาคารกลับมาเป็นแหล่งบ่มเพาะและส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแก่พระสงฆ์สามเณรและพุทธศาสนิกชนได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป