16 เม.ย. 68 – นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

นายฉลาด เปิดเผยว่า งบประมาณมากกว่า 2 พันล้านบาท สำหรับการก่อสร้างอาคาร สตง. มาจากเงินสะสมของหน่วยงาน ซึ่งคืองบประมาณเหลือในแต่ละปีที่ สตง.เก็บสะสมไว้เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานของตัวเอง เพราะหากเป็นการของบจากสภาฯ เชื่อว่าไม่มีทางได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก

สิ่งที่ตั้งประเด็นตรวจสอบคือ การก่อสร้างอาคารที่ใช้งบมหาศาลเช่นนี้ มีการทุจริตหรือไม่ วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เหล็ก ปูน หิน ทราย มีคุณภาพ ผ่านการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญตามขั้นตอนการสร้างอาคารสูงหรือไม่ กมธ. จำเป็นต้องได้ข้อมูลโดยละเอียด จึงได้เชิญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาชี้แจงให้ข้อมูลกับ กมธ. วันที่ 30 เม.ย. หลังเคยเชิญมาชี้แจงแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทาง สตง. ขอเลื่อน

หากไม่เกิดโศกนาฏกรรม ปัญหาอาคาร สตง. จะถูกซุกอยู่ใต้พรมต่อไปเรื่องที่มาที่ไปของหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชน รายละเอียดสัญญาจ้างงาน การอนุมัติตรวจสอบแบบ การรับรองโดยบุคลากรวิชาชีพ มาตรฐานการควบคุมงาน ตลอดจนวัสดุต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ผู้ว่าการ สตง. ต้องมาชี้แจงโดยละเอียด

นอกจากนี้ กมธ. ได้เชิญปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มาให้ข้อมูลในส่วนมาตรฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะในส่วนวัสดุ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ รวมทั้งอาจมีการทุจริตคอร์รัปชันมโหฬาร

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ปี 2563 สตง. ได้จัดซื้อโทรศัพท์บ้านแบบอะนาล็อกจำนวน 2,000 เครื่อง งบประมาณกว่า 13.6 ล้านบาท นายฉลาด กล่าวต่อว่า ถ้ามีการจัดซื้อจริงก็ต้องตรวจสอบว่ามีการนำมาใช้งานจริงบ้างหรือไม่ เพราะก่อนปี 2563 ทุกคนมีมือถือใช้งานอยู่แล้ว ส่วนราชการเองก็จัดซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนสมาร์ทโฟนให้แก่ผู้บริหารข้าราชการกันเป็นเรื่องปกติ ไม่น่ามีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณ 13.6 ล้าน สำหรับโทรศัพท์ตั้งโต๊ะรุ่นเก่าเช่นนี้ แต่ก็มักพบบ่อย ๆ ว่า หน่วยราชการจะมีข้ออ้างซื้อของที่ไม่จำเป็น ราคาแพงกว่าปกติ เพราะมีการบวกกำไรเข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น