สมุทรสาคร – จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงภาพการติดป้ายประกาศขายบ้านหน้าบ้านของตนเองอย่างตรงไปตรงมา โดยระบุถึงปัญหาโครงสร้างและการซ่อมแซมที่ไม่จบสิ้น ซึ่งไม่ใช่มีเพียงบ้านของเจ้าของคลิป แต่ยังพบป้ายลักษณะเดียวกันติดอยู่ทั่วหมู่บ้านโครงการหรูในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ตัวแทนของลูกบ้านโครงการดังกล่าวได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า การตัดสินใจติดป้ายประกาศขายบ้านมาจากปัญหาโครงสร้างบ้านที่ยืดเยื้อยาวนานเกือบ 2 ปี และยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพจากทางโครงการ จนทำให้ลูกบ้านขาดความเชื่อมั่นในการอยู่อาศัยในระยะยาว โดยปัญหาเริ่มขึ้นประมาณเดือนกันยายน 2566 ในส่วนของห้องครัวที่ทางโครงการต่อเติมให้ตั้งแต่แรกเริ่มส่งมอบบ้าน ซึ่งลูกบ้านไม่ทราบว่าอาจไม่ได้มาตรฐาน

เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาเริ่มปรากฏชัดขึ้น ทั้งรอยร้าว, ซิ้งค์ล้างจานตัน, น้ำไม่ไหล เป็นต้น ทางลูกบ้านได้แจ้งให้โครงการเข้ามาซ่อมแซมเป็นระยะ แต่ปัญหาไม่หายขาด บางหลังยิ่งซ่อมยิ่งเสียหายหนักขึ้น จนกระทั่งมีการขุดตรวจสอบอย่างละเอียด จึงพบปัญหาที่ฐานราก หรือ “ฟุตติ้ง” เกิดการแตกร้าว ซึ่งถือเป็นปัญหาระดับโครงสร้างที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของตัวบ้านทั้งหลัง

เมื่อลูกบ้านหลายรายตรวจสอบบ้านตนเองและพบปัญหาเดียวกัน จึงรวมตัวกันประมาณ 31 หลัง ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และแจ้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ

ต่อมา หน่วยงานรัฐได้ร่วมหารือกับโครงการและลูกบ้านเพื่อหาแนวทางเยียวยาและซ่อมแซม ซึ่งในช่วงหนึ่งของการหารือเรื่องการตรวจสอบฐานรากเพิ่มเติม ทางโครงการได้ขอให้ “หยุดขุด” เนื่องจากเกรงว่าปัญหาจะขยายวงกว้างและส่งผลต่อภาระความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ ขณะที่บางรายได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นให้ย้ายไปอยู่บ้านหลังอื่นที่โครงการจัดหาให้ชั่วคราว แต่หลายรายยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน โดยลูกบ้านส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่ต้องการให้ช่างหรือบริษัทเดิมของโครงการเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมอีก เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในคุณภาพงาน และต้องการให้หน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรวิชาชีพเป็นผู้จัดหาผู้รับเหมามาซ่อมแทน

ด้านฝ่ายดูแลโครงการได้ชี้แจงว่า หลังได้รับแจ้งปัญหา โครงการได้ส่งทีมช่างเข้าแก้ไขทันที แต่การซ่อมแซมในช่วงแรกอาจไม่ตรงจุด ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อลูกบ้านร้องเรียน สคบ. ทางโครงการก็ได้ร่วมหารือกับทุกฝ่าย และยืนยันว่า “ไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบ” และพร้อมรับผิดชอบทุกกรณีตามที่ตกลงร่วมกับ สคบ. และหน่วยงานรัฐ โดยยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการตรวจสอบและซ่อมแซม

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความล่าช้าเกิดจากลูกบ้านส่วนใหญ่ไม่ยินยอมให้โครงการจัดหาช่างเอง โดยเสนอให้หน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรวิชาชีพ เช่น สมาคมวิศวกรรมโครงสร้างแห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดหาบริษัทซ่อม เพื่อให้มั่นใจว่าได้มาตรฐาน ล่าสุด นายกสมาคมวิศวกรรมโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว และรายงานว่าสามารถดำเนินการซ่อมแซมได้โดยไม่ต้องรื้อหรือสร้างใหม่

ขณะนี้ การซ่อมแซมยังไม่เริ่มต้น เนื่องจากต้องรอให้ สคบ. และสมาคมวิศวกรรมโครงสร้างฯ ดำเนินการจัดหาบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาให้ ซึ่งต้องผ่านการกลั่นกรองและได้รับความยินยอมจากลูกบ้านก่อน กระบวนการนี้จึงต้องใช้เวลา และเป็นสาเหตุหลักของความล่าช้าที่เกิดขึ้น โดยทางโครงการเองก็ต้องการเร่งแก้ไขปัญหาเช่นกัน แต่ต้องรอให้หน่วยงานที่ลูกบ้านไว้วางใจเป็นผู้ดำเนินการจัดหาบริษัทซ่อมตามความต้องการของลูกบ้าน