สมุทรสาคร – ตำรวจ บก.ปอศ. ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดปฏิบัติการครั้งสำคัญ บุกทลายโกดังสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าขนาดใหญ่กลางเมืองสมุทรสาคร รวบนายทุนชาวจีน 2 ราย พร้อมยึดของกลางเกือบ 8 หมื่นชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 52 ล้านบาท เตือนภัยสินค้าปลอมที่ขายเกลื่อนออนไลน์ อาจมีสารอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ภูวเดช จุลกะเสวี ผกก.1 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว รอง ผกก.1 บก.ปอศ. และตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ โดย ร.ต.จักรา ยอดมณี รอง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงนายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รอง อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมครั้งใหญ่

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งเบาะแสจากทั้งเจ้าของแบรนด์สินค้าและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายสินค้าลอกเลียนแบบผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนัก

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวนมากถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน ก่อนจะถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในโกดังบริเวณชานเมืองสมุทรสาคร ในพื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเลือกทำเลดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและสะดวกต่อการกระจายสินค้า โดยมีการจ้างแรงงานชาวไทยเป็นผู้บรรจุและจัดส่งสินค้าไปทั่วประเทศ

พ.ต.ท.วิวัฒนชัย เปิดเผยรายละเอียดการเข้าตรวจค้นว่า หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่นหนา จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารที่ใช้เป็นโกดังจัดเก็บสินค้าดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบสินค้าปลอมจำนวนมหาศาลซุกซ่อนอยู่ภายในทั้งบ้านและโกดัง จึงแสดงหมายจับกุมตัวนายเจียเซียน (Mr. Jiaxian) อายุ 27 ปี และนายหาง (Mr. Hang) อายุ 19 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจีน พร้อมของกลางสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วย เครื่องสำอาง, อาหาร, และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ รวมทั้งสิ้น 78,223 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 52,307,283 บาท นอกจากนี้ ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์รวม 12 เครื่อง เพื่อนำไปตรวจสอบเส้นทางการนำเข้าสินค้า บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง และขยายผลต่อไปยังเครือข่ายที่ใหญ่กว่า

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า ปลอม/เลียน เครื่องหมายการค้าฯ และหรือ เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือ ทำให้ปรากฏชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นฯ” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ ยังได้เน้นย้ำถึงอันตรายของสินค้าปลอม โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภค ที่กำลังแพร่ระบาดในสังคมไทย ซึ่งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ร้ายแรงและใกล้ตัวผู้บริโภคอย่างยิ่ง บก.ปอศ. จึงได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง

“ผลิตภัณฑ์ปลอมจำนวนมากมีการตรวจพบสารอันตรายที่ห้ามใช้ เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน และสเตียรอยด์ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ทั้งต่อผิวหนัง ระบบภายใน และอาจสะสมจนเป็นอันตรายเรื้อรังในระยะยาว” พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวและเสริมว่า ความเสียหายไม่ได้จำกัดแค่ตัวบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ทั้งในด้านภาระค่ารักษาพยาบาลและความสูญเสียด้านแรงงานในเชิงเศรษฐกิจ

ในส่วนของผลกระทบต่อภาพรวม ร.ต.จักรา ยอดมณี รอง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของแบรนด์เนมปลอม ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อเจ้าของแบรนด์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดทั้งในและต่างประเทศ เครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลังส่วนใหญ่มักมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่พยายามแทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและกฎหมายของไทย

“ปฏิบัติการปราบปรามในครั้งนี้จึงถือเป็นการยกระดับความมั่นคงของประเทศ ควบคู่กับการปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงของการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวัง และที่สำคัญคือการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริโภค เพื่อให้รู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อสินค้าปลอม” ร.ต.จักรา กล่าวย้ำ

การทลายโกดังสินค้าปลอมในสมุทรสาครครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติในการใช้ประเทศไทยเป็นฐานกระจายสินค้าผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน เจ้าหน้าที่ยืนยันจะเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป