สิ้นสุดการรอคอยกว่า 15 ปี! บก.ปคม. รวบอดีตกระเป๋าเรือคลองแสนแสบ หื่นลวงข่มขืนเด็ก 13 ขาประจำ

สิ้นสุดการรอคอยกว่า 15 ปี! บก.ปคม. รวบอดีตกระเป๋าเรือคลองแสนแสบ หื่นลวงข่มขืนเด็ก 13 ขาประจำ

กรุงเทพฯ – สุรินทร์ – เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผกก.3 บก.ปคม.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (สว.กก.3 บก.ปคม.) นำกำลังเข้าจับกุม นายอภิชาต (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1829/2553 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2553 ในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากผู้เยาว์อายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร”

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายอภิชาตได้หลบหนีการจับกุมมานานกว่า 15 ปี นับตั้งแต่ก่อเหตุขึ้นในปี พ.ศ. 2553

ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2553 ขณะนั้นนายอภิชาตมีอาชีพเป็นกระเป๋าเรือโดยสารในคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ระหว่างที่ทำงาน เขาได้พบกับเด็กหญิงบี (นามสมมติ) ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 13 ปี และเป็นผู้โดยสารขาประจำที่ใช้บริการเรือโดยสารเป็นประจำ นายอภิชาตสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงบีมีหน้าตาดี จึงได้พยายามเข้าไปพูดคุยตีสนิทกับเด็กหญิงคนดังกล่าวอยู่เป็นประจำ จนทำให้เกิดความคุ้นเคยและไว้เนื้อเชื่อใจ

ต่อมาในวันเกิดเหตุ นายอภิชาตได้ใช้ความสนิทสนมที่สร้างขึ้นมาชักชวนเด็กหญิงบีให้เดินทางไปหาที่ห้องพักของตนเองในย่านรามคำแหง ด้วยความที่เด็กหญิงบีไม่ทันระวังตัวและมีความคุ้นเคยกับนายอภิชาต จึงยอมเดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงห้องพัก นายอภิชาตได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนเด็กหญิงบีจนสำเร็จความใคร่ หลังจากก่อเหตุแล้ว นายอภิชาตยังได้ข่มขู่เด็กหญิงบีอย่างรุนแรง ห้ามไม่ให้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปบอกเล่าให้ใครฟัง

ภายหลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กหญิงบีเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวลูกสาว ทั้งการที่กลับบ้านผิดเวลาบ่อยครั้ง และมีท่าทีซึมเศร้า ไม่ร่าเริงสดใสเหมือนเดิม ด้วยความกังวลใจ ผู้ปกครองจึงได้สอบถามเค้นความจริงจากเด็กหญิงบี จนในที่สุดเด็กหญิงบีก็ได้เปิดเผยเรื่องราวอันเลวร้ายที่ตนเองถูกกระทำทั้งหมด เมื่อทราบเรื่อง ผู้ปกครองไม่รอช้ารีบพาเด็กหญิงบีเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอภิชาตทันทีที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก (สน.หัวหมาก)

หลังจากที่นายอภิชาตทราบข่าวว่าผู้ปกครองและเด็กหญิงผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็เกิดความกลัวความผิด จึงได้ตัดสินใจหลบหนีออกจากพื้นที่ และใช้ชีวิตหลบซ่อนตัวมาโดยตลอดเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปี

จนกระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. ได้รับเบาะแสสำคัญว่า นายอภิชาต ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีคดีมานานแสนนานนั้น ได้มาพักอาศัยและใช้ชีวิตอย่างสงบในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ไม่คิดว่าจะมีใครตามมาพบ เจ้าหน้าที่จึงไม่รอช้า วางแผนเข้าทำการจับกุมทันที และสามารถรวบตัวนายอภิชาตได้ในที่สุด เป็นการปิดฉากการหลบหนีนานกว่าหนึ่งทศวรรษครึ่ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอภิชาตให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายอภิชาตส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *