สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หลังฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตอนใต้และภูมิภาคมิดเวสต์ ครอบคลุมรัฐโอไฮโอเรื่อยไปจนถึงรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 16 ราย

จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายวัย 9 ขวบจากรัฐเคนตักกี ซึ่งตื่นนอนก่อนรุ่งสางเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถโรงเรียนในวันสุดท้ายก่อนปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ ขณะนั้นเกิดฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีเด็กโดนน้ำท่วมพัดร่างหาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะระดมกำลังค้นหาและพบร่างของเด็กชายห่างจากจุดที่เขาโดนน้ำพัดพาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณครึ่งไมล์

การเสียชีวิตของเด็กชายวัย 9 ขวบได้จุดชนวนถกเถียงอย่างมาก โดยกลุ่มผู้ปกครองหลายคนออกมาตำหนิเขตการศึกษาที่ไม่ประกาศเลื่อนหรือยกเลิกชั้นเรียน ทั้งๆ ที่มีคำเตือนเรื่องการเกิดน้ำท่วมฉับพลันเป็นวงกว้าง และพบว่าเขตการศึกษาเองก็ได้ยกเลิกการวิ่งรถโรงเรียนไปแล้วก่อนหน้านั้น 2 เส้นทาง

ด้านผู้บริหารโรงเรียนประจำเขตแฟรงคลินเคาน์ตีได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กชาย แต่ไม่ได้ชี้แจงหรืออธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุใดเขตการศึกษาจึงไม่เลื่อนหรือยกเลิกชั้นเรียนในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักพยากรณ์อากาศเตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำบางพื้นที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าหลายสิบรัฐจะเผชิญน้ำท่วมรุนแรง