รัสเซียโจมตีเมืองซูมือด้วยขีปนาวุธ สังหารผู้บริสุทธิ์ 34 ศพ รวมเด็ก 2 ราย

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ประเทศพันธมิตรของยูเครนต่างออกมาแสดงท่าทีประณามรัสเซียอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองซูมือ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมื่อช่วงสายของวันที่ 13 เมษายนตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 34 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 2 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 117 คน

รายงานระบุว่าขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูกระเบิดใกล้กับมหาวิทยาลัยของรัฐและศูนย์การประชุมในเมืองซูมือ ซึ่งถือเป็นการโจมตีพลเรือนยูเครนที่นองเลือดที่สุดในปีนี้

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐอเมริกา ประเทศพันธมิตรหลักของยูเครน กำลังพยายามยุติสงครามที่ยืดเยื้อมากว่า 4 ปี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางมาเยือนยูเครนเพื่อเห็นกับตาถึงความเสียหายจากสงครามด้วยตนเอง

“โปรดมาพบกับผู้คน พลเรือน นักรบ โรงพยาบาล โบสถ์ เด็กๆ ที่ถูกทำลายหรือเสียชีวิต ก่อนจะตัดสินใจหรือเจรจาในรูปแบบใดๆ” นายเซเลนสกีกล่าวในรายการซิกตีมินิทส์ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส

ด้านนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า “น่าสยดสยอง” พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

ขณะที่นายฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวหารัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงครามอย่างจงใจและเจตนา ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่าการโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ารัสเซียละเลยชีวิตมนุษย์และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง

โฆษกสหประชาชาติเปิดเผยว่าเลขาธิการยูเอ็น นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส ตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และย้ำว่าการโจมตีพลเรือนเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *