รัสเซียถล่มซาโปริฌเฌียกว่า 220 ครั้ง ไม่สนหยุดยิงวันแห่งชัยชนะ
เคียฟ, ยูเครน – นายอีวาน เฟโดรอฟ ผู้ว่าการแคว้นซาโปริฌเฌีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ว่ากองกำลังรัสเซียได้ระดมโจมตีพื้นที่ชุมชน 8 แห่งใกล้แนวหน้าของสมรภูมิรบในแคว้นซาโปริฌเฌียอย่างหนักในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมีจำนวนรวมถึง 220 ครั้ง ประกอบด้วยการใช้โดรนโจมตีถึง 150 ลำ และการยิงปืนใหญ่เข้าใส่เป้าหมายอีก 70 นัด สร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ประกาศการหยุดยิงฝ่ายเดียวอย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ถึง 10 พฤษภาคม เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์วันแห่งชัยชนะในยุโรป (Victory Day) ซึ่งเป็นวันที่กองทัพนาซีเยอรมนียอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในสงครามโลกครั้งที่สอง
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัสเซียในครั้งนี้จึงถือเป็นการละเมิดคำประกาศหยุดยิงของตนเอง และสร้างความกังขาต่อความจริงใจในการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในยูเครน แม้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับรัสเซีย
ที่ผ่านมา ยูเครนได้ประณามการกระทำของรัสเซียหลายครั้งว่าไม่สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการลดความขัดแย้ง เช่น เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รัสเซียโจมตีเมืองซูมือ หลังการประกาศหยุดยิงเพียงไม่นาน รวมถึงการโจมตีอื่นๆ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สถานการณ์ในแคว้นซาโปริฌเฌียยังคงเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักจากการสู้รบ โดยเฉพาะชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้กับแนวหน้า ซึ่งมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากทั้งโดรนและปืนใหญ่เป็นประจำ
การโจมตีล่าสุดนี้เน้นย้ำถึงความเปราะบางของสถานการณ์ในยูเครน และความท้าทายในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพและได้รับการเคารพจากทุกฝ่าย