รทสช. ปลื้ม! ‘พีระพันธุ์’ ลดค่าไฟต่อเนื่องถึง 3.99 บาท ได้ใจประชาชน เตรียมรื้อโครงสร้างพลังงานฝังลึก
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เผย ประชาชนแห่ชื่นชม ‘รมว. พีระพันธุ์’ หลังลดค่าไฟได้อย่างต่อเนื่อง คาดรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2568 ลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ เตรียมเดินหน้าทลายปัญหาโครงสร้างราคาพลังงานที่ฝังรากลึก
วันที่ 26 เมษายน 2568 – นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงที่รัฐสภาปิดสมัยประชุม ตนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตามนโยบายของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ
นายอัครเดช กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ พบว่าตนและ ส.ส. ของพรรคฯ ต่างได้รับเสียงชื่นชมในการทำงานของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่สามารถแก้ไขปัญหาและลดค่าไฟฟ้าลงได้อย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม
โดยในรอบเดือนมกราคม ถึง เดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สามารถควบคุมค่าไฟฟ้าให้อยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วยได้สำเร็จ จากเดิมที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เสนอตัวเลขไว้ที่ 4.49 – 4.79 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการบรรเทาภาระประชาชน
และสำหรับในรอบถัดไป คือเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนสิงหาคม 2568 กระทรวงพลังงานคาดว่า ค่าไฟฟ้าจะสามารถปรับลดลงได้อีก เหลือเพียงประมาณ 3.99 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่ กกพ. เสนอไว้ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย ซึ่งการลดค่าไฟฟ้าลงอย่างต่อเนื่องนี้ ประชาชนต่างแสดงความขอบคุณ เพราะค่าไฟฟ้าเป็นหนึ่งในค่าครองชีพที่สำคัญและส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินชีวิต การปรับลดลงจึงเป็นการช่วยผ่อนคลายภาระหนักอึ้งของประชาชนได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม นายอัครเดช ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าและราคาพลังงานในปัจจุบัน เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เร่งด่วนเท่านั้น สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่ครอบคลุมถึงโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน จำเป็นต้องอาศัยการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการทลายปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวทิ้งท้ายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า การบริหารงานของกระทรวงพลังงานภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งได้รับการสนับสนุนภารกิจนี้จากนายกรัฐมนตรี เป็นการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาพลังงานที่ไม่เป็นธรรมอย่างจริงจัง โดยมีแนวทางการทำงานคือ การรื้อ ลด ปลด สร้าง พลังงานไทย ควบคู่ไปกับการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นการจัดการปัญหาพลังงานของประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต