นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อ รมว.สาธารณสุข ค้านมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอคดี ‘ทักษิณ’

กรุงเทพฯ – จากกรณีที่คณะกรรมการแพทยสภาได้มีมติลงโทษ 3 แพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ในคดีจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีการว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน และพักใช้ใบอนุญาตฯ 2 ท่าน ด้วยเหตุผลประกอบวิชาชีพไม่ได้มาตรฐานและให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยแพทยสภายืนยันว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าผู้ป่วยมีภาวะวิกฤตตามที่เป็นเหตุในการลงโทษนั้น

ล่าสุด วันนี้ (13 พฤษภาคม 2568) ณ กระทรวงสาธารณสุข พลตำรวจโท นายแพทย์ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ได้มอบหมายให้นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัว เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนมติของแพทยสภาดังกล่าว

นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้รับมอบเอกสารคำร้องแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า เอกสารคำร้องหลักๆ มี 2 หน้า เป็นการโต้แย้งกรณีที่อุปนายกแพทยสภาคนหนึ่งระบุว่าไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าผู้ป่วย (นายทักษิณ) มีอาการป่วยวิกฤต โดย พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงถึงการวินิจฉัยและการรักษาที่อิงตามเวชระเบียนที่มีอยู่ ณ ช่วงเวลานั้น และเห็นว่าการพิจารณาภาวะวิกฤตควรพิจารณาจากข้อมูลในช่วงเวลาที่วินิจฉัย ไม่ใช่เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว จึงมองว่าการพิจารณาของแพทยสภาอาจไม่ได้อิงจากข้อมูลทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว จึงมายื่นข้อมูลเชิงประจักษ์เพิ่มเติมเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา นำไปประกอบการพิจารณา

นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งมติการลงโทษอย่างเป็นทางการจากแพทยสภา แต่หากได้รับแล้ว จะมีกรอบเวลาดำเนินการภายใน 15 วัน ซึ่งท่านรัฐมนตรีฯ อาจพิจารณาตั้งคณะทำงานส่วนตัวขึ้นมาเพื่อช่วยพิจารณาข้อมูลต่างๆ โดยคาดว่าจะเห็นรายชื่อคณะทำงานในเร็วๆ นี้

ด้านนายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษแพทยสภา เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่งของแพทยสภา โดยขอใช้สิทธิตามกระบวนการขั้นตอน และจะไม่ให้ข้อมูลรายละเอียดในขณะนี้

เมื่อถูกถามว่าเหตุใดจึงมายื่นร้องขอความเป็นธรรมก่อนที่จะได้รับคำสั่งลงโทษอย่างเป็นทางการ นายเนติธร ชี้แจงว่า เนื่องจาก พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เกิดความไม่สบายใจจากข่าวที่ออกมา ซึ่งกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ จึงขอใช้สิทธิตามกฎหมายในการร้องขอความเป็นธรรม

นายกองตรี ดร.ธนกฤต ยืนยันว่า ข้อมูลที่นำมายื่นในครั้งนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากที่เคยยื่นต่อแพทยสภาในการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเป็นข้อมูลที่ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ ในฐานะผู้รับรองการวินิจฉัยโรคจากเวชระเบียน ต้องการชี้แจงเพิ่มเติมในมุมที่อาจยังไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเต็มที่ต่อแพทยสภา

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า เอกสารที่ได้รับวันนี้จะถูกนำไปประกอบการพิจารณาของสภานายกพิเศษฯ ซึ่งจะต้องให้ความเห็นต่อแพทยสภาภายใน 15 วันหลังจากได้รับหนังสือแจ้งมติอย่างเป็นทางการ ซึ่งการให้ความเห็นสามารถทำได้ 2 ทาง คือ เห็นด้วยกับมติแพทยสภา หรือไม่เห็นด้วย (วีโต้) อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าความเห็นจะเป็นอย่างไร ทางแพทยสภาก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้งเพื่อพิจารณาความเห็นของสภานายกพิเศษฯ และหากสภานายกพิเศษฯ ไม่เห็นด้วย ก็จะต้องมีการโหวตเสียงคณะกรรมการแพทยสภา 2 ใน 3 ว่าจะยึดตามมติเดิมหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนประเด็นความโปร่งใสที่มีความกังวลว่าอาจเป็นการประวิงเวลาทางการเมือง นายกองตรี ดร.ธนกฤต ยืนยันว่า เรื่องนี้มีกรอบเวลาตามกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนที่ 15 วัน ไม่สามารถประวิงเวลาได้ เป็นเรื่องของการพิจารณาการวินิจฉัยทางการแพทย์มากกว่าเรื่องการเมือง และการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ถือเป็นหลักการพื้นฐานของความยุติธรรม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *