กองทัพบก ยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาปกติ ไร้เผชิญหน้า ปัดข่าว รมว.กลาโหม-แม่ทัพภาค 2 ขัดแย้งแนวทาง
กองทัพบก ยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาปกติ ไร้เผชิญหน้า ปัดข่าว รมว.กลาโหม-แม่ทัพภาค 2 ขัดแย้งแนวทาง
กองทัพบก ยืนยันสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาโดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีลักษณะนำไปสู่การเผชิญหน้า ชี้แจงกรณีความเห็นในสื่อโซเชียลถึงแนวทางการจัดระเบียบพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ระบุว่าไม่ตรงกับ รมว.กลาโหม ว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันทุกการปฏิบัติยังคงเป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารที่อาศัยข้อมูลจากหน่วยปฏิบัติในพื้นที่
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน โดยยืนยันว่า ภาพรวมของสถานการณ์ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏลักษณะใด ๆ ที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันด้วยกำลังแต่อย่างใด ทำให้ประชาชนคลายความกังวลใจในประเด็นนี้ได้
พลตรี วินธัย ยังได้กล่าวชี้แจงเพิ่มเติม กรณีที่มีบางความเห็นเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุถึงแนวทางการจัดระเบียบพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ว่ามีลักษณะไม่สอดคล้องหรือไม่ตรงกันกับแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะฝ่ายบริหาร โดยยืนยันอย่างชัดเจนว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
โฆษกกองทัพบกเน้นย้ำว่า แนวทางการดำเนินการต่อพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ยังคงเป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารอย่างเคร่งครัด ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้อาศัยข้อมูลและองค์ประกอบที่ได้รับจากหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นสำคัญ ทำให้การทำงานระหว่างฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
สำหรับกลไกความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและดูแลพื้นที่ชายแดน พลตรี วินธัย เปิดเผยว่า คณะกรรมการชายแดนในทุกระดับ ทั้งระดับส่วนกลางและระดับภูมิภาค ยังคงสามารถดำเนินการประชุม พูดคุย และดำรงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของปัญหาหรือประเด็นที่อาจยังไม่เรียบร้อยในระดับพื้นที่หรือระดับท้องถิ่น โฆษกกองทัพบกระบุว่า ยังคงเหลืออยู่เพียงส่วนน้อยมาก และผู้ปฏิบัติงานของทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อดำเนินการแก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในเร็ววัน
สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่โดยหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ กองทัพบกยืนยันว่ายังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับฝ่ายบริหาร และแนวทางของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้มีการพูดคุยและตกลงร่วมกันกับฝ่ายกัมพูชาไว้แล้ว โดยยึดถือแนวปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีร่วมกัน และเคยใช้ร่วมกันมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องและความคงเส้นคงวาในการทำงาน
ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการจัดทำหลักเขตแดนและต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์นั้น ได้มีการนำแนวทางการดูแลร่วมกันมาใช้ โดยแต่ละฝ่ายสามารถจัดกำลังเฝ้าตรวจหรือลาดตระเวนในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปจะจำกัดอยู่ประมาณฝ่ายละ 7 คน ทั้งนี้ ในบางพื้นที่ที่พบว่ามีการจัดกำลังมากกว่าที่เคยปฏิบัติกันมา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความกังวลระหว่างกัน กองทัพบกก็ได้มีการปรับลดกำลังให้อยู่ในระดับเดิม เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเรียบร้อยและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างทั้งสองฝ่าย
พลตรี วินธัย สุวารี กล่าวเน้นย้ำในตอนท้ายว่า “กองทัพบกขอยืนยันว่า ทุกการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนยังคงยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการทุกด้านอย่างใกล้ชิดต่อไป” แสดงถึงเจตนารมณ์ในการทำงานเพื่อรักษาความมั่นคงและสันติสุขบริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง