ราชกิจจาฯ ประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิต ‘น้ำมันเบนซิน-ดีเซล’ มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ (7 พ.ค. 68)
กรุงเทพฯ – เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2568 ซึ่งส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล โดยมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
รายงานข่าวระบุว่า กฎกระทรวงฉบับนี้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามประกาศใช้
สาระสำคัญของกฎกระทรวง (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2568 คือการยกเลิกข้อความในประเภทที่ 01.01 น้ำมันเบนซิน และน้ำมันที่คล้ายกัน ในรายการที่ (1) (2) (3) (4) และ (5) รวมถึงประเภทที่ 01.05 น้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ในรายการที่ (1) (2) และรายการที่ (5) (5/1) (5/2) (5/3) (5/4) และ (5/5) ของบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง (ฉบับที่ 41) พ.ศ. 2568 และให้ใช้ข้อความที่เป็นอัตราภาษีใหม่แทน
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เนื่องด้วยปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ดังนั้นจึงสมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเภทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
กระทรวงการคลังมองว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ ซึ่งเป็นความจำเป็นที่ต้องออกกฎกระทรวงฉบับนี้ขึ้นมา
การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและดีเซลในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊มในระยะต่อไป ซึ่งประชาชนผู้ใช้น้ำมันจะต้องติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด.