รวบหนุ่มตระเวนงัดห้องลักทรัพย์กลางกรุง-ปริมณฑล ทำทีให้อาหารแมวบังหน้า พบเส้นทางเงินเปย์สาวคาราโอเกะ เสียหายกว่า 3 แสนบาท
สมุทรปราการ/กรุงเทพฯ – ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล รวบหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี ผู้ต้องหาตระเวนงัดห้องพักลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล สารภาพเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์เมื่อปีก่อน หวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ อ้างทำทีให้อาหารแมวจรจัดบังหน้า ก่อนอาศัยจังหวะผู้คนพลุกพล่านแต่เจ้าของห้องไม่อยู่ ลงมือก่อเหตุงัดห้องพักขโมยทรัพย์สิน พบเงินที่ได้ส่วนใหญ่นำไปเปย์สาวคาราโอเกะ ของกลางมูลค่ากว่า 3 แสนบาท ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ คาดก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เตรียมขยายผลติดตามทรัพย์สินคืน
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ยอดรัก กิตติลัภนะรัตน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุม นายสมบัติ หรือ “ต่อ” อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แกรน์ฟีลาโน่ สีฟ้า ซึ่งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เงินสดจำนวนกว่า 47,000 บาท และอุปกรณ์ช่างสำหรับงัดแงะหลายรายการ การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นที่บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ภายในเคหะชุมชนบ่อนไก่ ซอยปลูกจิต 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เมื่อผู้เสียหายรายหนึ่งได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าถูกคนร้ายงัดประตูห้องพักภายในซอยร่วมพัฒนา 9 ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ และได้ขโมยทรัพย์สิน รวมถึงเงินที่เก็บไว้ในกระปุกออมสินไปกว่า 2,500 บาท จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า แกรน์ฟีลาโน่ สีฟ้า ต้องสงสัย ขี่เข้ามาในซอยก่อนเกิดเหตุ และใช้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบข้อมูลและทราบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่สวมทะเบียน จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด พบว่าผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มักจะเปลี่ยนสถานที่หลบซ่อนตัวอยู่เรื่อยๆ คล้ายกับคนเร่ร่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตาม จนกระทั่งได้รับเบาะแสว่าผู้ต้องหาได้นำรถที่ใช้ก่อเหตุไปจอดซ่อนไว้ในเคหะชุมชนบ่อนไก่ เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม พบผู้ต้องหาเดินมาที่รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย คล้ายเตรียมตัวออกตระเวนก่อเหตุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มรออยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้ทันที
จากการตรวจค้นกระเป๋าของผู้ต้องหา พบอุปกรณ์งัดแงะ และเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยเงินสดกว่า 47,000 บาท ที่พบนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้โอนไปให้กับหญิงสาวที่ทำงานในร้านคาราโอเกะ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามเงินบางส่วนคืนมาได้แล้ว ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่ได้จากการลักทรัพย์ เช่น ทองรูปพรรณ และของมีค่าอีกหลายรายการ ที่ผู้ต้องหานำไปขายหรือจำนำ คาดว่ามีมูลค่ารวมกันกว่า 300,000 บาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามทรัพย์สินเหล่านั้นคืนมา
เบื้องต้น นายสมบัติ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเพิ่งพ้นโทษจากคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางบอน เมื่อช่วงปีที่แล้ว และเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) มาก่อน แต่เมื่อตกงานจึงหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง โดยใช้วิธีการขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามหอพักต่างๆ ทำทีนำอาหารมาให้แมวจรจัดที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อสร้างความคุ้นเคยและไม่ให้คนในพื้นที่เกิดความสงสัย จากนั้นจึงอาศัยจังหวะที่เจ้าของห้องไม่อยู่ หรือช่วงเวลาที่ผู้คนพลุกพล่านแต่ไม่ทันสังเกต ลงมืองัดห้องพักเพื่อขโมยทรัพย์สิน ก่อนจะเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถเพื่ออำพราง และหลบหนีไปพักตามจุดต่างๆ เช่น ใต้สะพาน หรือเคหะชุมชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ยากขึ้น ส่วนเงินที่ได้จากการขายหรือจำนำทรัพย์สิน จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและใช้เที่ยวเตร่กับผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าเพิ่งก่อเหตุเพียง 2 ครั้ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานหลายอย่างเชื่อมโยงว่า ผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายพื้นที่ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อขยายผลต่อไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: มติชน, ภาพบางส่วนจาก สปอร์ตไลท์บางปู