รถถัง จิตรเมืองนนท์ เปิดใจดราม่าค่าตัว 16.7 ล้านบาท หลังโดนโจมตีเงินบริจาคให้ชาวมุสลิม เผยเตรียมเปิดค่ายมวยที่คลอง 16

รถถัง จิตรเมืองนนท์ เปิดใจดราม่าค่าตัว 16.7 ล้านบาท หลังโดนโจมตีเงินบริจาคให้ชาวมุสลิม เผยเตรียมเปิดค่ายมวยที่คลอง 16

รถถัง จิตรเมืองนนท์ อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ออกมาเปิดใจผ่านรายการดัง เกี่ยวกับประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น หลังจากได้รับเงินรางวัลมหาศาลจากการชกไฟต์ล่าสุด รวมถึงแผนในอนาคตกับการเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเอง

หลังจากที่ รถถัง จิตรเมืองนนท์ สามารถเอาชนะน็อก ทาเครุ เซกาวา ซุปเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่น ไปได้อย่างสวยงามในยกแรก ในศึก ONE 172 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง โดยหลังจบไฟต์ดังกล่าว มีการยืนยันว่า รถถัง ได้รับค่าตัวสูงถึง 15 ล้านบาท และได้รับโบนัสจากการชนะน็อกอีก 1.7 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16.7 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นค่าตัวที่สูงที่สุดของนักมวยไทยที่ชกในรายการ ONE Championship

ล่าสุด รถถัง ได้มาเปิดใจแบบหมดเปลือกผ่านช่อง DJภูมิ ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังไฟต์ประวัติศาสตร์ โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น หลังจากที่ รถถัง เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะนำเงินรางวัลส่วนหนึ่งไปบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้ชาวมุสลิม ทว่ากลับถูกกลุ่มคนบางกลุ่มเข้ามาโจมตี

“เรื่องดราม่า มันมี 2 อย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัว แต่มีตอนที่ผมแถลงข่าวหลังชกเสร็จได้โบนัส แล้วผมจะมอบส่วนหนึ่งให้กับผู้ยากไร้ชาวมุสลิม มีคนเข้ามาโจมตีใหญ่ บ้างก็บอกว่าเงินนั้นมันเป็นเงินบาป เงินต่อสู้ สารพัด แล้วผมเป็นคนที่เซนซิทีฟกับศาสนาอยู่แล้วด้วย แต่เป็นคนกลุ่มๆหนึ่ง ขนาดกลางๆ” รถถัง กล่าวถึงประเด็นแรก

“อีกอันดราม่าครอบครัว มีคนมาบอกว่านั่นไงพอมีตั้งครอบครัวก็จะเยอะ ผมจะบอกว่าครอบครัวผมเยอะมาตั้งนานแล้ว แล้วอยู่กันมาไม่เคยปล่อยมือใครสักคน พี่น้อง 12 คน ลูกหลานอีก รวมแล้วเกือบ 30 คน ทุกๆไฟต์หลังชกเสร็จจะมาอยู่รวมกัน แต่คนมาเห็นไฟต์ที่ชนะเท่านั้น” เขาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นครอบครัว

ในส่วนของการใช้จ่าย รถถัง เผยว่าส่วนตัวไม่ชอบเก็บเงินสด ใช้เงินวันละประมาณ 1,000 บาท ข้าวกินที่บ้าน มีการซื้อที่ดินบ้าง ส่วนภรรยา (อัยดา) ก็มีสิทธิ์ส่วนหนึ่งที่จะได้นำไปใช้จ่าย ขณะที่การใช้เงินก้อนใหญ่ๆ ในช่วงนี้คือการซื้อสัตว์เลี้ยง เช่น แพะ, ควาย เพื่อนำไปลงที่ทุ่งนาของตนเอง

นอกจากนี้ รถถัง ยังได้กล่าวถึงอนาคต โดยเผยว่าตอนนี้กำลังเตรียมที่จะเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเอง ซึ่งจะตั้งอยู่ที่บริเวณคลอง 16 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และกำลังอยู่ในขั้นตอนการขอซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายพื้นที่ทุ่งนา

การเปิดใจของ รถถัง ในครั้งนี้ ได้ช่วยคลี่คลายข้อสงสัยและดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเผยให้เห็นอีกมุมมองหนึ่งของยอดนักมวยรายนี้ ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จบนเวทีระดับโลกแล้ว ยังมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือสังคมและวางแผนชีวิตในระยะยาวอีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *