สะเทือนใจ! ไรเดอร์ทวงค่าพัสดุ 225 บาท ถูกผัวเมียรุมทำร้าย ใช้มีดฟันหน้าเย็บ 24 เข็ม
สมุทรสงคราม – เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับพนักงานส่งพัสดุรายหนึ่ง เมื่อถูกคู่สามีภรรยารุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมด้วยมีดและเท้า เพียงเพราะไปทวงถามเงินค่าพัสดุจำนวนเพียง 225 บาท ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเย็บถึง 24 เข็ม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 2568 ที่ สภ.อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม นายธนธัส ขุนนุช ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้นำตัว นายธนภัทร อายุ 20 ปี พนักงานส่งพัสดุ เข้าพบ พ.ต.อ.พิชญุตม์ โกสุม ผู้กำกับการ สภ.อัมพวา เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
นายธนภัทร ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตนเป็นพนักงานของบริษัทส่งสินค้าเอกชน ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 16.00 น. ได้นำพัสดุไปส่งยังบ้านพักของผู้ก่อเหตุในพื้นที่หมู่ 10 ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา แต่ไม่มีผู้ใดอยู่บ้าน จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง น.ส.พิมลนาฏ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้สั่งสินค้า ทาง น.ส.พิมลนาฏ ได้ตกลงว่าจะโอนเงินค่าสินค้าจำนวน 225 บาท ให้ในภายหลัง นายธนภัทร จึงได้วางพัสดุไว้ที่บ้านตามที่ตกลง
อย่างไรก็ตาม เวลาล่วงเลยไปจนถึงประมาณ 21.00 น. น.ส.พิมลนาฏ ก็ยังไม่ได้ชำระเงินค่าสินค้า นายธนภัทร จึงได้โทรศัพท์กลับไปเพื่อทวงถาม แต่กลับเกิดการโต้เถียงกันขึ้น เนื่องจากสินค้าได้ถูกแกะออกจากกล่องแล้ว ทำให้ไม่สามารถตกลงเรื่องการคืนสินค้าได้
ต่อมา น.ส.พิมลนาฏ ได้นำเงินจำนวน 225 บาท มามอบให้นายธนภัทร เมื่อนายธนภัทรทำการทอนเงินเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ นายสุรสิทธิ์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.พิมลนาฏ ได้เดินเข้ามาและสอบถามนายธนภัทรด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า “มึงเก๋ามาจากไหน?” ก่อนจะใช้มีดฟันใส่นายธนภัทรทันที ขณะเดียวกัน น.ส.พิมลนาฏ ก็ได้เข้ามาผลักหน้าอกและใช้เท้าเตะนายธนภัทรจนล้มลง ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ทั้งบริเวณหน้าผาก 2 แผล, ฝ่ามือด้านซ้าย 1 แผล, หน้าอก 1 แผล และหูซ้ายอีก 1 แผล รวมบาดแผลทั้งหมดต้องเย็บถึง 24 เข็ม
ทางด้าน พ.ต.อ.พิชญุตม์ โกสุม ผู้กำกับการ สภ.อัมพวา เปิดเผยภายหลังการรับเรื่องว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำนายธนภัทร ผู้บาดเจ็บไว้แล้ว และในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนจะเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันก่อน อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาไม่เป็นผลและไม่สามารถตกลงกันได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับผู้ก่อเหตุทั้งสองคนต่อไป
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากความขัดแย้งเล็กน้อย และยังเป็นอุทาหรณ์เตือนใจถึงอันตรายที่พนักงานส่งพัสดุซึ่งปฏิบัติหน้าที่อาจต้องเผชิญ