กรมชลฯ ประสบความสำเร็จบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 67/68 เกษตรกรให้ความร่วมมือดีเยี่ยม เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนมั่นคง

กรุงเทพฯ – กรมชลประทานเผยความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2567/68 ชื่นชมเกษตรกรทั่วประเทศที่ให้ความร่วมมือในการใช้น้ำตามแผนอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วนตลอดช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา พร้อมยืนยันความพร้อมในการเข้าสู่ฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เมษายน 2568) พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีรวมกันทั้งสิ้น 45,080 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 59% ของความจุอ่างฯ รวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 21,142 ล้านลูกบาศก์เมตร

เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของประเทศ ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีรวมกันทั้งสิ้น 14,139 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 57% ของความจุอ่างฯ รวมกัน และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 7,443 ล้านลูกบาศก์เมตร

ตลอดฤดูแล้งที่ผ่านมา กรมชลประทานได้มีการจัดสรรน้ำไปแล้วทั่วประเทศรวม 28,064 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคิดเป็น 96% ของแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้ ขณะที่ผลการเพาะปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศ เกษตรกรได้ดำเนินการเพาะปลูกไปแล้วกว่า 9.99 ล้านไร่ ซึ่งเป็นไปตามแผน 100% และได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วประมาณ 6.07 ล้านไร่ คิดเป็น 61% ของพื้นที่เพาะปลูก

ความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2567/68 ส่วนสำคัญมาจากการที่เกษตรกรส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่กรมชลประทานวางไว้ ทำให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เพาะปลูก

นาย.. (ยังไม่มีชื่อในข่าวต้นฉบับ) อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อเข้าสู่ฤดูฝนปี 2568 ที่คาดว่าจะเริ่มในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยได้มีการวางแผนส่งน้ำสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี และเร่งรัดให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็จก่อนช่วงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อผลผลิตเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังคงดำเนินการกำจัดผักตบชวาและสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำลำคลองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคงทางน้ำให้กับทุกภาคส่วน และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งในภาวะขาดแคลนและภาวะน้ำหลาก

ความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและเกษตรกร รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทำให้มั่นใจได้ว่าการบริหารจัดการน้ำของประเทศจะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ สร้างความมั่นคงด้านน้ำสำหรับภาคเกษตรและประชาชนอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *