กรุงเทพฯ – ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 2 ประเทศไทยตอนบนกำลังจะเผชิญกับสถานการณ์พายุฤดูร้อนในช่วงระหว่างวันที่ 9–12 พฤษภาคม 2568 นี้ โดยคาดว่าจะเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นในบางพื้นที่

ผลกระทบจากพายุฤดูร้อนนี้จะเริ่มต้นจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน จากนั้นพื้นที่ภาคอื่นๆ ของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ขณะเดียวกัน ภาคใต้จะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นและอาจมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานจึงได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเร่งดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ดังนี้

• เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง: ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือทันทีหากเกิดฝนตกหนักหรือพายุที่อาจส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทานหรือพื้นที่โดยรอบ
• ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ: บูรณาการข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาพอากาศและระดับน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ เพื่อร่วมกันแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างทันท่วงที
• เตรียมความพร้อมเครื่องจักรและเครื่องมือ: ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นในการเข้าช่วยเหลือประชาชน เช่น รถแบคโฮ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ให้พร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอหรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
• บริหารจัดการน้ำ: กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านการกักเก็บน้ำให้ได้เต็มศักยภาพเพื่อรองรับฤดูแล้งต่อไป และการระบายน้ำในกรณีที่จำเป็นเพื่อป้องกันน้ำท่วม
• ปฏิบัติตามมาตรการ กนช.: ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ประจำปี 2568 ของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน

กรมชลประทานยืนยันความพร้อมในการดูแลสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากประชาชนมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูล หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้านท่าน หรือโทรศัพท์สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง