ลำพูน – เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดกลางดึกวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณแยกดอยติ จังหวัดลำพูน เมื่อรถกู้ภัยคันหนึ่งเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและไซเรนวิ่งฝ่าสัญญาณไฟแดงด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังข้ามแยกตามสัญญาณไฟเขียว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมาถึง 2 ราย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนสายยลำปาง-เชียงใหม่ บริเวณแยกไฟแดงดอยติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ จังหวัดลำพูน ได้รับแจ้งเหตุและรุดเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสว่างนครลำพูน และหน่วยงานภาคีเครือข่ายกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่

ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล ณ จุดเกิดเหตุ บางรายมีอาการสาหัสถึงขั้นต้องทำการซีพีอาร์ (CPR) ก่อนเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลหริภุญชัยฯ และโรงพยาบาลพริ้นซ์ลำพูนฯ เพื่อรักษา

อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล รายแรกคือ นางกมลรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี เป็นพนักงานบริษัทในเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ซึ่งกำลังขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านพักที่ ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน หลังเลิกงาน อีกรายเป็นชายไม่ทราบชื่อ ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเช่นกัน

น.ส.กัญญาภัค น้องสาวของนางกมลรัตน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะเกิดเหตุ พี่สาวกำลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านทางแยกดอยติ ซึ่งเป็นสัญญาณไฟเขียวสำหรับฝั่งของพี่สาว แต่ปรากฏว่ามีรถกู้ภัยของหน่วยงานหนึ่งเปิดไซเรนวิ่งมาด้วยความเร็วและพุ่งชน โดยได้รับแจ้งในภายหลังว่า รถกู้ภัยคันดังกล่าวไม่มีเคสผู้ป่วยฉุกเฉินอยู่ในรถแต่อย่างใด

ด้านนายกมล สามีของนางกมลรัตน์ เล่าด้วยความเสียใจว่า ทุกคืนตนจะขี่รถจักรยานยนต์มารอรับภรรยาที่หน้าปากซอยบ้าน เนื่องจากทางเข้าบ้านค่อนข้างเปลี่ยว คืนเกิดเหตุรอนานผิดปกติ จึงพยายามโทรศัพท์หา แต่ภรรยาก็ไม่รับสาย จนกระทั่งได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าภรรยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว สิ่งที่น่าเวทนายิ่งกว่าคือ ลูกสาววัยเพียง 7 ขวบ ที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของแม่ที่บ้าน ต้องมาเผชิญชะตากรรมที่น่าเศร้า กำพร้าแม่ไปอย่างกะทันหัน

เบื้องต้น การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า รถจักรยานยนต์ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรที่แสดงไฟเขียว ขณะที่รถยนต์ (รถกู้ภัย) ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญในการดำเนินการสอบสวนต่อไป.