อย่าละเลย! กรดไหลย้อนเรื้อรังในผู้สูงอายุ อาจเป็นสัญญาณเตือน ‘มะเร็งหลอดอาหาร’ ผู้เชี่ยวชาญชี้ควรรีบพบแพทย์
อาการแสบร้อนที่หน้าอก มีกรดไหลย้อน คลื่นไส้อาเจียน กลืนลำบาก รู้สึกเหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงวัย อาการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กที่ควรมองข้าม เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการแพทย์และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาเตือนว่า นี่อาจเป็นสัญญาณสำคัญของ ‘มะเร็งหลอดอาหาร’ ที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคมะเร็งหลอดอาหารว่า ทั่วโลกมีอัตราการเกิดประมาณ 3-5 คน ต่อประชากร 100,000 คนต่อปี โดยพบอัตราสูงในประเทศแถบเอเชียตะวันออกอย่างจีนและญี่ปุ่น รวมถึงยุโรปตะวันออก มะเร็งชนิดนี้มีความชุกสูงขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และพบบ่อยในกลุ่มอายุ 50-70 ปี มะเร็งหลอดอาหารคือโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในท่อซึ่งทำหน้าที่นำอาหารจากปากสู่กระเพาะอาหาร โดยมีต้นกำเนิดที่เยื่อบุผิว แบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก คือ ชนิด Squamous Cell Carcinoma ซึ่งพบบริเวณหลอดอาหารช่วงบนถึงกลาง และชนิด Adenocarcinoma ที่มักพบในส่วนล่างใกล้กระเพาะอาหาร
ด้าน เรืออากาศเอกนายแพทย์สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร ได้แก่ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน รวมถึงภาวะกรดไหลย้อนที่เรื้อรัง ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้นไปอีก การบริโภคอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่ใส่สารกันบูด หรือการดื่ม/รับประทานอาหารที่มีอุณหภูมิสูงจัดเป็นประจำ ก็เป็นความเสี่ยง นอกจากนี้ ผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งในช่องปากหรือโพรงจมูกก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อาการของผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะของโรค แต่โดยทั่วไปอาการที่ควรสังเกตและไม่ควรละเลย ได้แก่:
- ปวดหรือไม่สบายที่หน้าอก รู้สึกเจ็บหรือแน่นบริเวณกลางหน้าอก
- กลืนลำบาก (Dysphagia) รู้สึกเหมือนมีอะไรติดขัดขณะกลืนอาหารหรือของเหลว ซึ่งเป็นอาการเด่นที่มักพบ
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้จะรับประทานอาหารตามปกติ
- คลื่นไส้และอาเจียน
- แสบร้อนหน้าอก มีภาวะกรดไหลย้อนที่บ่อยหรือรุนแรงขึ้น
- เสียงแหบ หากเนื้องอกมีการกดทับเส้นประสาทที่ควบคุมเส้นเสียง
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- ไอมาก หรือมีอาการไอเรื้อรัง
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรเร่งรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที
สำหรับการวินิจฉัย มะเร็งหลอดอาหาร นายแพทย์กิตินัทธ์ ทิมอุดม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งระบบทางเดินอาหาร สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้กล่าวเสริมว่า สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การส่องกล้องหลอดอาหาร (Endoscopy) เพื่อตรวจดูความผิดปกติที่อาจเป็นแผลหรือก้อนเนื้อ การเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ (Biopsy) ไปตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันว่าเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ และการตรวจภาพถ่ายทางรังสีวิทยา เช่น เอกซเรย์กลืนแป้ง, CT Scan หรือ MRI เพื่อประเมินระยะการลุกลามของโรคว่าลึกถึงชั้นใด หรือมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะใกล้เคียงหรือไม่
วิธีการรักษามะเร็งหลอดอาหารขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปมีหลายทางเลือก ได้แก่ การผ่าตัด ซึ่งอาจเป็นการตัดหลอดอาหารส่วนที่มีมะเร็งออก หรือลอกเฉพาะเยื่อบุผิวในระยะเริ่มต้น การฉายรังสีรักษาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งหรือลดขนาดเนื้องอก การใช้เคมีบำบัด ซึ่งใช้ยาในการควบคุมหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะในระยะที่โรคมีการแพร่กระจาย และการบำบัดทางภูมิคุ้มกัน (Immunotherapy) ซึ่งเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
มะเร็งหลอดอาหารเป็นโรคที่ต้องการความเอาใจใส่และวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว การทราบและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง รวมถึงการสังเกตอาการผิดปกติและรีบพบแพทย์ จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาดและลดอัตราการเสียชีวิตได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ผ่านช่องทาง Facebook: สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute และ LINE: NCI รู้สู้มะเร็ง