เปิดวอร์รูม ม.รังสิต! เหยื่อ ‘หอ หึ หึ มหาภัย’ พุ่งกว่า 50 ราย แห่แจ้งความปมโดนขัง-ยึดทรัพย์ ด้าน สคบ.-ตร. ลุยเอาผิดหอพักเถื่อน

ปทุมธานี – มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สคบ. และฝ่ายปกครอง เปิด “วอร์รูม” ที่มหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความจากกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและผู้ปกครองที่เช่าพักในหอพักแห่งหนึ่งย่านเมืองเอก ที่ถูกเรียกขานว่า “หอ หึ หึ มหาภัย” หลังมีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ทยอยเข้าให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบและผิดกฎหมายของเจ้าของหอพักอย่างต่อเนื่อง คาดว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก เพราะปัญหาเกิดขึ้นมานานแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ณ อาคาร 1 ห้อง 301 ชั้น 3 มหาวิทยาลัยรังสิต จังหวัดปทุมธานี ได้มีการเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และรับแจ้งความ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ทั้ง พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมพนักงานสอบสวน, นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา จาก สคบ., รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต หรือที่รู้จักในนาม “อาจารย์โต้ง”, นางสาววิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี, นายนัฐพงษ์ วรรณสว่าง ปลัดอำเภอเมืองปทุมธานี และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

การเปิด “วอร์รูม” ครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เช่าหอพักดังกล่าว ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของเจ้าของหอพักที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้เช่า โดยใช้สัญญาเช่าระยะยาวเป็นเงื่อนไข หากผู้เช่ารายใดต้องการย้ายออกก่อนครบกำหนด จะถูกยึดเงินประกันและทรัพย์สินส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีการกล่าวอ้างถึงพฤติกรรมเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เช่าบางรายอีกด้วย

ภายในห้องประชุมของมหาวิทยาลัย พบว่ามีผู้เสียหาย ทั้งนักศึกษาและผู้ปกครอง ทยอยเดินทางเข้ามาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ดำเนินคดีและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. โดยยอดผู้เสียหายที่มาลงทะเบียนแล้วมีจำนวนกว่า 50 ราย ซึ่งทุกคนต่างนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องมามอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักมหาภัยนี้

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้น มีผู้เสียหายแสดงความจำนงต้องการดำเนินคดีแล้วกว่า 40 ราย ซึ่งคาดว่าจำนวนจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากปัญหาของหอพักแห่งนี้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์นี้จะเปิดต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือหากปิดไปแล้ว แต่นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากหอพักนี้หรือหอพักอื่นๆ ในอนาคต ก็ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ฝ่ายกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

ด้าน นางสาววิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รับทราบเรื่องและสั่งการให้เร่งตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่าหอพักแห่งนี้ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการหอพักอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.หอพักฯ และจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ, ภาษีป้ายโรงเรือน, ภาษีรายได้ รวมถึงการก่อสร้างที่รุกล้ำทางเท้าสาธารณะด้วย โดยกำหนดกรอบเวลาให้เจ้าหน้าที่รายงานผลกลับมาภายใน 3 วัน พร้อมทั้งตำหนิเจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาลตำบลหลักหก ที่ปล่อยปละละเลยให้อาคารที่ก่อสร้างไม่ตรงตามแบบและอาจไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปี

จากการตรวจสอบในพื้นที่ตำบลหลักหก พบว่ามีหอพักเกือบ 200 แห่ง แต่มีเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ว่าฯ ปทุมธานี จึงได้สั่งให้ตรวจสอบหอพักอื่นๆ ทั้งจังหวัดเพิ่มเติม และหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบหอพักที่เป็นปัญหาอีกครั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ สคบ. ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบประเด็นปัญหาเรื่องสัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรม และการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่ง สคบ. จะเร่งสืบสวนเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนเรื่องเงินประกัน ผู้เช่ามีสิทธิได้รับคืนตามกฎหมาย หากปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น อยู่ครบสัญญา หรืออยู่เกินกึ่งหนึ่งแล้วบอกเลิกสัญญา แต่หอพักก็มีสิทธิหักเงินประกันได้ หากมีความชำรุดเสียหายที่เกิดจากผู้เช่า โดยต้องหักอย่างเป็นธรรมและเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

ทางด้าน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.ปากคลองรังสิต ยืนยันว่า ทางตำรวจจะเดินหน้าดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักในทุกประเด็นความผิดที่เกี่ยวข้อง แม้จะมีข้อมูลว่าสามีของเจ้าของหอพักเคยเป็นอดีตนายตำรวจ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือทำให้เกิดความกังวลในการทำคดีแต่อย่างใด พร้อมขอความเห็นใจว่าการทำงานของตำรวจชุดปัจจุบันจะรวดเร็วและไม่ล่าช้าเหมือนในอดีตที่ผ่านมาแน่นอน

ผู้เสียหายรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ซึ่งเป็นนักศึกษา เล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเองพบเจอว่า พักอยู่ที่หอพักนี้มาเกือบปีแล้ว เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระหว่างที่นอนหลับอยู่ในห้องช่วงเช้า เจ้าของหอพักผู้หญิง (ป้า) ได้นำกุญแจมาไขเปิดประตูเข้ามา ซึ่งทำให้ตนเองตกใจมาก เมื่อสอบถาม เจ้าของหอบอกว่ามาไขดูลูกกุญแจ ผู้เสียหายสังเกตว่าห้องพักทุกห้องในหอพักนี้ไม่มีกลอนประตูจากด้านใน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย วันนี้จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความเพื่อที่จะได้ย้ายออกจากหอพักแห่งนี้โดยเร็ว

ต่อมาในช่วงบ่าย นางสาววิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี พร้อมด้วย นางสาวช่อลัดดา พิทักษ์ทรัพย์ ปลัดเทศบาลตำบลหลักหก (ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก), นายวีระเชษฐ์ สุนาวงศ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลหลักหก, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารหอพักดังกล่าว กรณีการก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบว่าภายในหอพักเงียบสนิท ไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นผู้ดูแลหรือเจ้าของหอพัก เพื่อให้ข้อมูลหรือนำตรวจสอบอาคาร

นายวีระเชษฐ์ สุนาวงศ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลหลักหก เปิดเผยว่า อาคารหลังนี้มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2548, 2555 และ 2556 ซึ่งการขออนุญาตในขณะนั้นพื้นที่นี้ยังไม่ได้ยกเป็นที่สาธารณะประโยชน์ การดำเนินการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากนิติบุคคล แต่เมื่อมีการยกพื้นที่นี้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ในปี 2562 แล้ว การก่อสร้างที่รุกล้ำเข้ามาในเขตสาธารณะจะต้องถูกดำเนินการรื้อถอนออกไป

นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2552 เมื่อตรวจสอบพบว่าอาคารมีการต่อเติมผิดจากแบบที่ขออนุญาตไว้ พนักงานท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งให้ระงับการใช้อาคาร และออกคำสั่งให้รื้อถอนส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตออก ซึ่งทางเทศบาลตำบลหลักหกจะดำเนินการให้เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม นางสาวช่อลัดดา พิทักษ์ทรัพย์ ปลัดเทศบาลตำบลหลักหก (ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีตำบลหลักหก) กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบอาคารแรกและอาคารที่สองพบว่าปิดไฟเงียบสนิท ไม่มีผู้ใดอยู่ มีเพียงเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ แต่เมื่อโทรไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนอีกอาคารใช้ระบบคีย์การ์ด ไม่สามารถเข้าได้ เจ้าหน้าที่ได้เรียกหาผู้ดูแลแล้วแต่ก็ไม่มีใครออกมา ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *