เปแอสเช เชือด อาร์เซนอล 2-1 (รวม 3-1) ทะลุชิง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ลุ้นเทรเบิล
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังคงรักษาเส้นทางในการลุ้นคว้า 3 แชมป์รายการหลักในฤดูกาลนี้ได้อย่างต่อเนื่อง หลังเปิดบ้านเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ไปได้ 2-1 ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เกมที่สนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ที่กุมความได้เปรียบจากนัดแรกที่บุกไปชนะ อาร์เซนอล (อังกฤษ) ถึงถิ่นมา 1-0 โดยเกมนัดนี้ เปแอสเช นำโดยแนวรุกอย่าง บราดเลย์ บาร์กโกลา, เดซิเร ดูเอ และ ควิชา ควารัตส์เคเลีย ขณะที่ อาร์เซนอล ส่ง มิเคล เมริโน, บูคาโย ซากา และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ลงสนามเป็นตัวหลัก
เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที อาร์เซนอล เกือบได้ประตูนำจากจังหวะทุ่มไกลของ โธมัส พาร์ทีย์ มาถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี ได้แปวอลเลย์ แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายทวารเปแอสเช ยังเซฟไว้ได้หวุดหวิด ต่อมาในนาทีที่ 8 ลูกทุ่มไกลของ พาร์ทีย์ ก็เกือบสร้างปัญหาอีกครั้ง แนวรับเปแอสเชสกัดมาเข้าทาง มาร์ติน โอเดการ์ด ได้ยิงเต็มข้อด้วยซ้าย แต่ ดอนนารุมมา ก็ยังปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม
เปแอสเช มีโอกาสทองในนาทีที่ 17 เดซิเร ดูเอ จ่ายให้ ควิชา ควารัตส์เคเลีย เลี้ยงเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วปั่นด้วยขวา บอลผ่านมือ ดาบิด รายา นายทวารอาร์เซนอล ไปแล้ว แต่ชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
จนกระทั่งนาทีที่ 27 ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นจากจังหวะฟรีคิกกราบซ้าย วิตินญา เปิดเข้าหน้าประตู ผู้เล่นอาร์เซนอลโหม่งสกัดมาเข้าทาง ฟาเบียน รุยซ์ บริเวณหน้าเขตโทษ ซึ่งพักอกหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย เปแอสเชขึ้นนำ 1-0 และเป็น 2-0 เมื่อรวมสกอร์สองนัด
นาทีที่ 30 เปแอสเชได้จังหวะสวนกลับเร็ว ควิชา ควารัตส์เคเลีย จ่ายให้ บราดเลย์ บาร์กโกลา แตะเข้าเขตโทษ ก่อนล็อกหลบกองหลังแล้วยิง แต่ ดาบิด รายา ยังพุ่งปัดไว้ได้ จบครึ่งแรก เปแอสเชนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 64 อาร์เซนอลมีโอกาสตีเสมอ บูคาโย ซากา เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษด้านขวา แล้วโยกหลบก่อนปั่นด้วยซ้ายหวังเสียบเสาสอง แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดบอลออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 66 เกิดจังหวะปัญหาขึ้น เมื่อกรรมการเช็กวีเออาร์จังหวะที่ อัชราฟ ฮาคิมี ยิงไปติดมือ วิลเลียม ซาลิบา ในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าให้เป็นจุดโทษแก่ เปแอสเช วิตินญา รับหน้าที่สังหาร แต่จงใจดึงจังหวะช้าเพื่อหลอก ดาบิด รายา ซึ่งนายทวารชาวสเปนไม่หลงกล พุ่งไปถูกทางและปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้อาร์เซนอลรอดเสียประตูที่สอง
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 72 เปแอสเช ก็มาได้ประตูที่สองจนได้ จากจังหวะที่ ควิชา ควารัตส์เคเลีย จ่ายบอลหักมาหน้าเขตโทษ อัชราฟ ฮาคิมี เข้าปั๊มแย่งบอลกับผู้เล่นอาร์เซนอล บอลกระดอนมาเข้าทาง อุสมาน เดมเบเล ซึ่งชิ่งคืนให้ ฮาคิมี ได้ยิงทันที บอลเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด เปแอสเชนำ 2-0 ทำให้สกอร์รวมเป็น 3-0
อาร์เซนอล มาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 76 เลอันโดร ทรอสซาร์ด แย่งบอลจากกองหลังเปแอสเชได้ทางกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลแฉลบผู้เล่นเปแอสเชมาหน้าประตู บูคาโย ซากา ได้แปติดบล็อกแรก แต่บอลยังมาเข้าทางให้เจ้าตัวได้ยิงซ้ำระยะเผาขนเข้าไปไม่เหลือ อาร์เซนอลไล่มา 1-2 แต่สกอร์รวมยังตามหลัง 1-3
ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 81 เปแอสเช เกือบได้ประตูเพิ่มอีกครั้ง ควิชา ควารัตส์เคเลีย จ่ายให้ ฟาเบียน รุยซ์ ด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนแปะต่อให้ อุสมาน เดมเบเล สับไกยิงด้วยซ้ายเต็มๆ แต่ ดาบิด รายา ก็ยังพุ่งปัดไว้ได้อีกครั้ง จบเกม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านชนะ อาร์เซนอล ไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้สกอร์รวมสองนัดเป็น 3-1 เปแอสเชเป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จ
การเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสรของ เปแอสเช ต่อจากฤดูกาล 2019-20 ที่ได้รองแชมป์ โดยในนัดชิงชนะเลิศ พวกเขาจะเข้าไปพบกับ อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี ซึ่งจะลงแข่งขันกันที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ในคืนวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ การผ่านเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ยังทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นคว้า 3 แชมป์รายการหลักในฤดูกาล 2024-25 ได้สำเร็จ โดยพวกเขาคว้าแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส ไปแล้ว และกำลังรอลงเตะนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย เฟรนช์ คัพ อีกหนึ่งรายการ