เจ้าฟ้าทีปังกรฯ เจริญพระชันษา 20 ปี: พระราชประวัติและบทบาท เจ้าฟ้าผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ซึ่งทรงเจริญพระชันษาครบ 20 ปี ในวันที่ 29 เมษายน 2568 ขอนำเสนอพระราชประวัติและพระกรณียกิจสำคัญ โดยเฉพาะด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งทรงแสดงความสนพระทัยและเลื่อมใสอย่างยิ่งมาโดยตลอด

แรกประสูติ พระนาม “คือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง”

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประสูติเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 18.35 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อแรกประสูติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชหัตถเลขา พระนามว่า “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ” เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548 พร้อมความหมายอันเป็นมงคลว่า “ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง” โดยพระราชทานชื่อภาษาอังกฤษว่า “His Royal Highness Prince Dipangkorn Rasmijoti” ทั้งนี้ คำว่า “ทีปังกร” ยังเป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในพุทธศาสนาด้วย

เมื่อทรงมีพระชนมายุครบ 1 เดือน ได้มีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ในพระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2548

สถาปนาพระฐานันดรศักดิ์เฉลิมพระนาม

ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระฐานันดรศักดิ์และเฉลิมพระนามเป็น “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร” ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โดยระบุถึงการที่ทรงเจริญวัยตั้งพระทัยศึกษา และทรงปฏิบัติสรรพกรณียกิจอันควรแก่ขัตติยกุมารได้อย่างดียิ่ง

พระประวัติด้านการศึกษา

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา และปัจจุบันทรงศึกษา ณ โรงเรียนวอลดอร์ฟชูเล่ อิซาทอล (Frei Waldorfschule Isartal) เมืองเกเร็ตสรีส (Geretsried) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทรงสนพระทัยในกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านกีฬา การอ่าน และการบิน

พระราชกรณียกิจและกิจกรรม “จิตอาสา”

เมื่อเสด็จฯ กลับประเทศไทยในแต่ละครั้ง ทรงร่วมกิจกรรมจิตอาสาในโครงการจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ อาทิ การบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาดวัด การประทานสิ่งของแก่ตัวแทนจิตอาสา และทรงประกอบอาหารประทาน นอกจากนี้ยังทรงติดตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการทรงเยี่ยมราษฎรและติดตามการดำเนินงานโครงการต่างๆ อีกทั้งทรงรับเป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย

ด้วยพระกรณียกิจและพระเกียรติคุณ สถาบันการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุขหลายแห่ง ได้รับพระราชทานพระนามเป็นชื่ออาคารหรือสถานที่สำคัญ อาทิ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์, ห้องสมุดทีปังกรรัศมีโชติ, อุทยานการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมและวิทยาศาสตร์ ทีปังกรรัศมีโชติ, อาคารทีปังกรรัศมีโชติ โรงพยาบาลวชิระ และอาคารทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

เจ้าฟ้า ผู้ทรงสนพระทัยและเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนา

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงแสดงความสนพระทัยและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง เมื่อเสด็จฯ กลับประเทศไทยทุกครั้ง จะทรงเข้าเฝ้าและสนทนาธรรมกับเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นประจำ โดยทรงมีพระปุจฉาในประเด็นที่ทรงสนพระทัย อาทิ หลักความเชื่อของแต่ละศาสนา ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับพุทธศาสนา และบทบาทของศาสนาต่อชีวิตในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังทรงสนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯ และวัดป่าในต่างจังหวัด เช่น การเสด็จไปทรงปฏิบัติธรรมและสนทนาธรรมกับ พระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชยสาโร) ณ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี จังหวัดนครราชสีมา

ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านศาสนาหลายครั้ง โดยเสด็จแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดสำคัญหลายแห่ง อาทิ วัดราชโอรสารามและวัดอรุณราชวราราม (2563), วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก (2565), วัดสุทัศนเทพวราราม (2566), วัดสุวรรณดารารามและวัดนิเวศธรรมประวัติ อยุธยา (2567 ร่วมกับสมเด็จพระบรมราชินี) และวัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม (2567)

ในการเสด็จถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการนมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงอัญเชิญมาจากเมืองโบราณศรีสัชนาลัยและโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ รวมถึงทรงสักการะพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงระบุไว้ในพระพินัยกรรมให้นำมาบรรจุไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย

การแต่งตั้งพระอภิบาล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้แต่งตั้ง พลอากาศเอก ชาญชาย เกิดผล เป็นพระอภิบาลและผู้ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2563 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา

การเจริญพระชันษาครบ 20 ปีของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ในปี 2568 นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของขัตติยกุมารผู้ทรงเจริญวัยอย่างสง่างาม ทรงมุ่งมั่นศึกษา และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยเฉพาะด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งสะท้อนถึงพระจริยวัตรอันงดงามและพระอัธยาศัยอันเลื่อมใสในพระธรรมอย่างแท้จริง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *