เปิดที่มา “มีมเปรต” สุดไวรัลโซเชียล มีอยู่จริงไม่ใช่แค่ภาพ AI พบที่นี่เอง!
เปิดที่มา “มีมเปรต” สุดไวรัลโซเชียล มีอยู่จริงไม่ใช่แค่ภาพ AI พบที่นี่เอง!
ในช่วงที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “มีมเปรต” ได้กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ใช้งานจำนวนมาก ด้วยภาพเปรตในอิริยาบถและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ โดยส่วนใหญ่เป็นภาพที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และล้อเลียนวิถีชีวิตในยุคปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น มีมเปรตกินชาเขียวทั้งวันแต่ยังง่วง, เปรตดูซีรีส์มาราธอน, หรือเปรตนักช้อปออนไลน์กด F รัวๆ ตลอดวัน
แต่เบื้องหลังความตลกขบขันนี้ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า “มีมเปรต” ที่เห็นกันจนคุ้นตานี้ ไม่ได้มาจากภาพที่สร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมด แต่มีต้นแบบมาจากภาพของจริง!
ต้นกำเนิดของมีมสุดฮิตนี้มาจากรูปปั้น “เปรต ขี้เกียจ นอน ลูกเดียว” ซึ่งตั้งอยู่ที่ วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเป็นรูปปั้นที่มีลักษณะเป็นเปรตสีดำนอนอยู่บนพื้น พร้อมป้ายที่เขียนข้อความตามชื่อรูปปั้นอย่างชัดเจน รูปปั้นนี้มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำ ทำให้เมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป จึงถูกนำมาต่อยอดและสร้างสรรค์เป็นมีมต่างๆ มากมาย
วัดไผ่โรงวัว: มากกว่าต้นกำเนิดมีม
วัดไผ่โรงวัว หรือที่มีชื่อเป็นทางการว่า วัดโพธาราม เป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง มีพื้นที่กว้างขวางถึง 248 ไร่ วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน ด้วยประติมากรรมปูนปั้นที่เกี่ยวกับพุทธประวัติ และการจำลองภาพนรกภูมิ หรือที่เรียกว่า “แดนนรก” ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของวัด ที่จำลองภาพภูตผีปีศาจที่ต้องชดใช้กรรมต่างๆ ในนรกภูมิ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้คนละเว้นความชั่วและหันมาทำความดี
ความเชื่อเกี่ยวกับ “เปรต” ในพระพุทธศาสนา
ในทางพุทธศาสนาและคติความเชื่อของไทย “เปรต” ถูกจัดอยู่ในภพภูมิหนึ่ง หรือเป็นอสุรกายจำพวกหนึ่ง เชื่อว่าเป็นผลกรรมจากการกระทำความชั่วต่างๆ ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเบียดเบียนผู้อื่น การตระหนี่ถี่เหนียว หรือการยักยอกทรัพย์สิน การเกิดเป็นเปรตคือการไปชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้
ตามตำราทางพระพุทธศาสนา เปรตมีหลากหลายประเภท ไม่ได้มีแค่ลักษณะผอมสูง ปากเท่ารูเข็ม ตามที่เข้าใจกันโดยทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีเปรตที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดต่างๆ กันไป และบางจำพวกก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากการลงโทษตัวเองตามผลกรรมที่ทำไว้
ในคัมภีร์สำคัญอย่าง คัมภีร์โลกบัญญัติปกรณ์ และ คัมภีร์ฉคติทีปนีปกรณ์ ได้กล่าวถึงเรื่องราวของเปรต โดยแบ่งออกเป็น 12 ตระกูล นอกจากนี้ ในส่วนของ พระวินัยปิฎก และ ลักขณสังยุตต์ ในพระสุตตันตปิฎก ก็ยังได้กล่าวถึงเปรตอีกถึง 21 จำพวก ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น เปรตที่มีปากเป็นหมู เปรตที่กลายเป็นก้อนเนื้อไร้รูปร่าง หรือเปรตที่มีไฟลุกท่วมตามร่างกายตลอดเวลา เป็นต้น
เรื่องราวของ “เปรต ขี้เกียจ นอน ลูกเดียว” จากวัดไผ่โรงวัว จึงเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจว่า ประติมากรรมทางศาสนาและการสื่อสารข้อคิดคำสอนในอดีต สามารถกลับมามีชีวิตชีวาและเชื่อมโยงกับผู้คนในยุคปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผ่านปรากฏการณ์ “มีม” ในโลกโซเชียลมีเดีย