จากกรณี น.ส.ปิยธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือน ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ สักพักมีอาการปวดท้องจึงได้เข้าไปหลบมุมมืด ก่อนที่จะคลอดลูกออกมา จากนั้นก็เอาลูกมาวางไว้บริเวณกระถางต้นไม้ในมุมมืด ก่อนที่จะค่อยๆ เดินออกมา กลับไปเล่นน้ำต่อ กระทั่งมีพลเมืองดีมาพบเด็กถูกทิ้ง จึงได้แจ้งกู้ภัย

ซึ่งระหว่างที่กู้ภัยกำลังมานั้น แม่ของเด็กก็เดินกลับมาดูด้วย ซึ่งมีคนสังเกตเห็นเลือดบริเวณขา เมื่อถามก็ได้รับคำตอบว่าเป็นประจำเดือน แต่ก็มีคนสังเกตว่าผู้ก่อเหตุหน้าค่อนข้างซีด เนื่องจากเสียเลือด กระทั่งเค้นถามจนยอมรับว่าคลอดลูกออกมาแล้วเอามาทิ้งไว้

อย่างไรก็ตาม กว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และพยายามที่จะปั๊มหัวใจทารก แต่ไม่สามารถช่วยได้ จากนั้นได้นำร่างส่งนิติเวช รพ.ภูมิพล ส่วนแม่เด็กส่งรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ประชาธิปัตย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้เดินทางไปสอบปากคำที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะได้แจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย หลังจากออกจากโรงพยาบาล

นายตะวัน กุดเหลา อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ ตนและกลุ่มเพื่อนเล่นน้ำสังสรรค์กันตามปกติ กระทั่งมีเพื่อนผู้หญิง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดบริเวณที่พบเด็ก เมื่อเห็นเด็กจึงวิ่งไปเรียก รปภ. และพวกคนมาดู ก็พบว่ามีทารกถูกซุกเอาไว้ จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบ

ก่อนที่ตนจะเดินมาเจอ น.ส.ปิยธิดา ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนที่มาเล่นน้ำอยู่ด้วยกัน นั่งหน้าซีดอยู่ข้างถังขยะ บริเวณพื้นมีเลือดนองและลิ่มเลือด ตนจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กที่ถูกนำมาทิ้งใช่ลูกหรือไม่ แต่ น.ส.ปิยธิดา ปฏิเสธ และอ้างว่าเลือดที่เห็นคือประจำเดือน

ตนจึงได้ไปสอบถามเพื่อนของ น.ส.ปิยธิดา เพื่อนก็ไม่ทราบว่า น.ส.ปิยธิดา ท้อง เพราะเขาเองโกหกเพื่อนมาตลอดว่าอ้วนขึ้น ไม่ได้ท้อง จึงให้เพื่อนและกู้ภัยเค้นถามความจริง จนในที่สุดยอมรับสารภาพว่าเป็นคนคลอดลูกไว้จุดดังกล่าวจริง ก่อนจะเดินไปเอารกและสายสะดือมาทิ้งในถังขยะ

นายตะวันกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนมองว่ามันร้ายแรงมากๆ ท้องขนาดนี้ไม่สมควรออกจากบ้านมาเล่นน้ำสังสรรค์แบบนี้ ควรจะอยู่บ้านพักผ่อน เพราะจากที่เห็นเด็กสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว พร้อมที่จะคลอดออกมาเร็วๆ นี้ หรือเป็นเพราะจงใจที่จะทิ้งเด็กมาโดยตลอด เนื่องจากพฤติกรรมที่เห็นนั้น น.ส.ปิยธิดา ทั้งดื่มเหล้าสูบบุหรี่ และอาจจะมีสารเสพติดอย่างอื่นร่วมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้เขาได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป และได้รับโทษทางกฎหมายถึงที่สุด