รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยข้อมูลการรับตัวและคืนแรกในเรือนจำของนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดัง และนางสาวอุษณา มหากิจสิริ บุตรสาว หลังจากถูกศาลพิพากษาและคุมตัวส่งเข้าเรือนจำ ยืนยันทั้งคู่สามารถนอนหลับและรับประทานอาหารได้ตามปกติ ขณะที่นายประยุทธพบโรคประจำตัวตามวัย และทั้งสองคนต้องถูกแยกกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการของเรือนจำ

ความคืบหน้ากรณีที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 มีคำพิพากษาในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มบริษัทเอกชน ซึ่งมีชื่อของนายประยุทธ มหากิจศิริ เป็นจำเลย โดยศาลพิพากษาว่ากลุ่มเอกชนได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการออกเอกสารสิทธิขยายเนื้อที่โฉนดที่ดินโดยมิชอบ เพื่อใช้ในการก่อสร้างสนามกอล์ฟ เมาน์เทน ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา ซึ่งถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดในฐานะผู้สนับสนุน หลังจากศาลมีคำพิพากษา ก็ได้มีการคุมตัวนายประยุทธ และนางสาวอุษณา บุตรสาว ส่งเข้าเรือนจำกลางสุรินทร์ทันที ตามที่ได้มีการรายงานข่าวก่อนหน้านี้

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ได้เปิดเผยถึงกระบวนการรับตัวและการดูแลผู้ต้องขังใหม่ทั้งสองคนนี้

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เรือนจำกลางสุรินทร์ได้รับตัวนายประยุทธ และนางสาวอุษณา จากศาลเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติ

หลังจากการรับตัว ได้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น พบว่านายประยุทธ มหากิจสิริ มีโรคประจำตัวตามวัย และมียารับประทานประจำพร้อมกับใบรับรองแพทย์ เนื่องจากท่านมีอายุมาก ทางเรือนจำจึงได้จัดให้แยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำ เป็นเวลา 5 วัน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขของเรือนจำคอยดูแลอย่างใกล้ชิดในอัตรา 2 ต่อ 1 เพื่อสังเกตอาการและดูแลด้านสุขภาพเป็นพิเศษ

สำหรับนางสาวอุษณา มหากิจสิริ ก็ถูกแยกกักโรคโควิด-19 เช่นกัน โดยถูกนำตัวไปพักในพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับการกักโรคในแดนหญิง และมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำดูแลเช่นเดียวกับกรณีของนายประยุทธ

ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ทั้งนายประยุทธ และนางสาวอุษณา สามารถนอนหลับได้เป็นปกติในคืนแรกที่อยู่ในเรือนจำ และสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติด้วย เนื่องจากเดินทางมาถึงเรือนจำในช่วงค่ำแล้ว จึงไม่ได้มีการรับประทานอาหารของทางเรือนจำในคืนแรกนั้น

นางกนกวรรณ ยืนยันว่า การดำเนินการของเรือนจำกลางสุรินทร์ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับตัว การตรวจสุขภาพ การแยกกักโรค และการดูแลผู้ต้องขังใหม่ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ (SOPs) ของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด

ภายหลังการกักโรคครบกำหนด 5 วัน ญาติก็จะสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ตามระเบียบและมาตรการของเรือนจำต่อไป