ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เข้าขอโทษ “อนุทิน” ปมแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีน สะท้อนแรงกดดันจากสังคม

ปราจีนบุรี/กระทรวงมหาดไทย – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ในช่วงเช้าที่นายอนุทินเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้ปรากฏภาพของ นายวีระพงษ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ยืนรอต้อนรับอยู่ที่บริเวณทางเข้ากระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ยกมือไหว้ทักทาย นายอนุทิน ซึ่งทางนายอนุทินได้แสดงท่าทีตอบรับอย่างเป็นกันเอง ด้วยการใช้มือตบเบาๆ ที่บริเวณไหล่ของนายวีระพงษ์ พร้อมกับมีการพูดคุยกันสั้นๆ เพียงเล็กน้อย ก่อนที่นายอนุทินจะเดินทางขึ้นไปยังห้องทำงานส่วนตัว

รายงานข่าวระบุว่า การเดินทางมาเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ของผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงความขอโทษอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่ นายวีระพงษ์ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งบุคคลสัญชาติจีนรายหนึ่งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด

คำสั่งดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในสังคมไทย ทั้งในวงกว้างและบนสื่อสังคมออนไลน์ ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาตั้งคำถามคือความเหมาะสมของการให้ชาวต่างชาติเข้ามามีตำแหน่งที่ปรึกษาในหน่วยงานราชการระดับสูงของจังหวัด แม้จะเป็นตำแหน่งที่ไม่มีอำนาจบริหารโดยตรง แต่ก็เกี่ยวข้องกับการให้คำแนะนำและอาจมีผลต่อการกำหนดนโยบายของจังหวัด

ภายใต้แรงกดดันและการตั้งคำถามจากสาธารณชนอย่างหนัก ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีจึงได้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนรายดังกล่าวในเวลาต่อมา เพื่อเป็นการตอบสนองต่อข้อกังวลและความไม่สบายใจของประชาชน

แหล่งข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในการเข้าพบครั้งนี้ นายวีระพงษ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เตรียมพวงมาลัยเพื่อมอบให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความเคารพและการขอขมา เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจและขอโทษในกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของความรู้สึกสาธารณชนและพลังของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงในปัจจุบัน การดำเนินการใดๆ ของหน่วยงานราชการต้องคำนึงถึงความโปร่งใส ความเหมาะสม และการยอมรับจากประชาชนเป็นสำคัญ