พปชร. ซัดรัฐบาลแก้เศรษฐกิจผิดทาง ทำไทยรั้งท้ายอาเซียน แย่กว่า กัมพูชา-ลาว จี้เลิกขึ้นภาษีน้ำมัน
โฆษก พปชร. ซัดรัฐบาล แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ถูกทาง ทำไทยเกือบรั้งท้ายอาเซียน แย่กว่า “กัมพูชา-ลาว” แถมซ้ำเติมขึ้น “ภาษีน้ำมัน” หวั่นกระทบการแข่งขันทางธุรกิจ ด้าน พล.อ.ประวิตร ตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหม่สู้
กรุงเทพฯ 13 พฤษภาคม 2568 – ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สส. และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม โดยได้มีการหารือถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลว่า การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเชื่องช้าและไม่ถูกทิศทาง ส่งผลเสียต่อภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศอย่างมหาศาล ชี้ให้เห็นจากรายงานล่าสุดของสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้ปรับลดระดับทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลง
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ นี่เป็นครั้งแรกที่ลำดับทางเศรษฐกิจของประเทศไทยตกต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและลาว ทำให้ประเทศไทยอยู่ในลำดับเกือบรั้งท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการเศรษฐกิจของรัฐบาล
โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังเน้นย้ำถึงปัญหาการเพิ่มภาษีน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจและการขนส่ง ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง แต่รัฐบาลกลับเลือกที่จะเพิ่มภาษีน้ำมัน ถือเป็นการ ‘ตัดแขนตัดขา’ ประชาชนและภาคธุรกิจ ทำให้น้ำมันในประเทศไทยมีราคาแพงกว่าประเทศเวียดนามอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เกิดคำถามว่าเราจะสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้อย่างไร ในเมื่อต้นทุนพื้นฐานสูงกว่า
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมของพรรค พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้ดำเนินการปรับทัพและแต่งตั้งทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ข้อเสนอแนะและผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยมีนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการของพรรค เป็นหัวหน้าทีม ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการ เป็นรองหัวหน้าทีม พร้อมทีมงานคนรุ่นใหม่ อาทิ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ และโฆษกพรรค, น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์, และ น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ทีมโฆษกพรรค ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน การธนาคาร เศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างมืออาชีพ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงความคืบหน้ากรณีที่นายทหารชั้นนายพลนำชาวกัมพูชาขึ้นไปร้องเพลงชาติกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอธิปไตยของไทย แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ไม่มีการดำเนินการประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินคดี หรือดำเนินการอื่นใด พร้อมตั้งคำถามว่ารัฐบาลเกรงใจกัมพูชาหรือไม่ อีกทั้งยังมีการออกคำสั่งให้ทหารไทยถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของไทย