โฆษก พปชร. แจง ‘บิ๊กป้อม’ แค่เดินเสียหลักที่วัดโพธิ์ ยันสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ตกบันไดตามข่าวลือ

โฆษก พปชร. แจง ‘บิ๊กป้อม’ แค่เดินเสียหลักที่วัดโพธิ์ ยันสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ตกบันไดตามข่าวลือ

กรุงเทพฯ – วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระแสข่าวที่สร้างความวิตกกังวลในหมู่ประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะข่าวที่เผยแพร่ออกมาว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นพลัดตกบันได ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ จนได้รับบาดเจ็บและต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน.

ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนทันที หลัง พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปเข้าร่วมในพิธีสำคัญ ณ วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่เคารพสักการะ โดยในวันนั้น พล.อ.ประวิตร ได้รับเกียรติให้เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์มงคลเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์และแก้ไขข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า รายงานข่าวที่อ้างว่า พล.อ.ประวิตร “ตกบันได” นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

“ขอเรียนชี้แจงให้ทุกท่านทราบว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตกบันไดอย่างที่มีข่าวเผยแพร่ออกไปครับ” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอย่างชัดเจน “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุการณ์ที่ท่านเดินเสียหลักไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่การพลัดตกบันไดแต่อย่างใด และเหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น”.

โฆษกพรรค พปชร. ยังได้กล่าวย้ำถึงสภาพร่างกายและจิตใจของหัวหน้าพรรค เพื่อคลายความกังวล โดยระบุว่า “พล.อ.ประวิตร ยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรงดีมากครับ ทั้งร่างกายและจิตใจของท่านยังคงพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจประจำวัน และทำงานในฐานะหัวหน้าพรรคได้อย่างเต็มที่ตามปกติ ไม่ได้มีการนำส่งโรงพยาบาลตามที่ข่าวลือกล่าวอ้าง”.

การชี้แจงอย่างเป็นทางการจากพรรคพลังประชารัฐผ่านโฆษกพรรคในครั้งนี้ ถือเป็นการยุติกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วในช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ และเป็นการยืนยันสถานะสุขภาพที่แข็งแรงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด.

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสาธารณะและประเด็นที่ละเอียดอ่อน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลที่อาจสร้างความเข้าใจผิดและความวิตกกังวลในสังคม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *