พปชร. ประชุมใหญ่สามัญ ‘บิ๊กป้อม’ นำทัพ ปรับโฉมโลโก้ ตั้ง 2 รองหัวหน้า ย้ำ ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’
กรุงเทพฯ – พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ใหม่ ปรับโฉมให้ทันสมัยขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันได้มีการแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคเพิ่มเติมอีก 2 ตำแหน่ง ย้ำจุดยืนทางการเมืองเป็น ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’ มุ่งมั่นปกป้องสถาบันหลักของชาติ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 เมษายน 2568 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม มีคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค ตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมเกินกว่า 250 คน ถือว่าครบองค์ประชุมตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยมีการรายงานผลการดำเนินงานของพรรคในรอบปี 2567 ตามมาตรา 43 และรับรองงบการเงินประจำปี 2567 ตามมาตรา 61 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กล่าวเปิดประชุมโดยเน้นย้ำถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรค พปชร. ในการเป็นพรรค ‘อนุรักษ์นิยมทันสมัย’ พร้อมประกาศเจตจำนงที่แน่วแน่ในการยึดมั่นและปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณี และค่านิยมอันดีงามของชาติ โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่มาร่วมประชุมในวันนี้
นอกจากวาระตามข้อกฎหมาย ที่ประชุมยังมีมติสำคัญคือ การให้ความเห็นชอบ ‘ตราสัญลักษณ์พรรค’ ตราใหม่ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความหมายสื่อถึงพลังพลวัตและความทันสมัย โดยมีลักษณะเด่นคือ คำว่า “พรรค” อยู่กึ่งกลางด้านใน เหนือตัวอักษรคำว่า “พลังประชารัฐ” ซึ่งแบ่งสีตามคำ โดย “พลัง” เป็นสีเขียว “ประชา” เป็นสีน้ำเงิน และ “รัฐ” เป็นสีแดง ทั้งหมดอยู่ภายในวงล้อพลวัตที่มี 3 แถบสี แดง น้ำเงิน เขียว บนพื้นสีขาว
อีกวาระสำคัญคือการพิจารณาเลือกกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 2 ตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ด้วยคะแนนเสียง 339 คะแนนเท่ากันทั้งสองคน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า การปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังมีการปลด น.ส.กาญจนา จังหวะ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากมีภาพไปร่วมกิจกรรมกับพรรคกล้าธรรม จึงมีการแต่งตั้งนายธีระชัยและนายสุรเดชเข้ามาแทน เพื่อเสริมทัพและปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคให้มีความแข็งแกร่งและสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของพรรคต่อไป