หมูแพงเพราะอากาศร้อน ต้นทุนพุ่ง! พาณิชย์อ้อนห้างตรึงราคา ย้ำติดตามใกล้ชิด
กรุงเทพฯ – นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรในปัจจุบัน โดยระบุว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีข้อสั่งการให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์การผลิตและภาวะการค้าสุกรและเนื้อสุกรอย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับฟาร์ม โรงงานแปรรูป และจุดจำหน่ายค้าปลีก เพื่อแก้ไขปัญหาและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้มีการหารือและทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ พบว่าปริมาณสุกรที่ออกสู่ตลาดในช่วงนี้มีจำนวนลดลงเล็กน้อย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60,000 ตัวต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าวยังคงเพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุหลักที่ทำให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลง มาจากปัจจัยด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนจัดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ความร้อนส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของสุกร ทำให้โตช้ากว่าปกติ น้ำหนักเฉลี่ยของสุกรก่อนนำเข้าโรงฆ่าลดลง และยังมีการสูญเสียระหว่างการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ผลผลิตสุกรที่เข้าสู่ระบบการค้าลดน้อยลง
นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรยังต้องเผชิญกับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านน้ำและค่าไฟฟ้า ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เพิ่มขึ้นอย่างมากในการควบคุมอุณหภูมิภายในฟาร์ม เพื่อบรรเทาความเครียดจากสภาพอากาศร้อนจัดให้กับสุกร ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงต่อตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาประกาศสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศในสัปดาห์นี้ ยังคงมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องอยู่ที่ 88 บาทต่อกิโลกรัม โดยคาดว่าแนวโน้มราคาหน้าฟาร์มจะยังคงทรงตัวในระดับนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มปรับลดลงได้บ้างเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงมากขึ้น และเป็นไปตามรอบการผลิตปกติ
นายวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภค กรมการค้าภายในได้จัดการประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ขอความร่วมมือให้คงราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ณ จุดขายไว้ หากมีความจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น จะต้องแจ้งให้กรมฯ ทราบล่วงหน้า เพื่อที่กรมฯ จะได้เข้าหารือและเจรจากับผู้ผลิตรายใหญ่ในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อหาทางควบคุมต้นทุนการผลิตและกระจายสินค้า ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกมากเกินไป
นอกจากมาตรการขอความร่วมมือแล้ว กรมการค้าภายในยังมีมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยมีการจำหน่ายเนื้อสุกรคุณภาพดีในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ผ่านโครงการธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งในรูปแบบงานธงฟ้าที่จัดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงเนื้อสุกรแดงเข้าสู่โมบายธงฟ้า เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อสุกรในราคาย่อมเยา
อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำในตอนท้ายว่า กรมการค้าภายในยังคงติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรและสินค้าอื่นๆ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร หรือมีการฉวยโอกาสขึ้นราคา สามารถแจ้งข้อมูลหรือร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง ผู้ค้าจะมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ