สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์! ทั่วโลกคาทอลิกเศร้า จับตา ‘คอนเคลฟ’ เลือกผู้นำคนใหม่
วาติกัน – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ที่นครวาติกัน ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา เพียงไม่กี่วันหลังจากที่พระองค์ทรงออกจากโรงพยาบาล หลังเข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจขั้นรุนแรง
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรคาทอลิกมานานถึง 12 ปี ได้สร้างความโศกเศร้าให้กับคริสตศาสนิกชนกว่า 1.39 พันล้านคนทั่วโลก และจุดกระแสคำถามสำคัญว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไปของศาสนจักรที่เก่าแก่และมีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
กระบวนการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่: ‘คอนเคลฟ’
ตามธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนจักรคาทอลิก เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์หรือสละตำแหน่ง พระคาร์ดินัลทั่วโลกที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะมีสิทธิเข้าร่วมในกระบวนการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ ซึ่งเรียกว่า ‘คอนเคลฟ’ (Conclave)
การประชุมลับ ‘คอนเคลฟ’ จะจัดขึ้นภายใน โบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine Chapel) ซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังพระสันตะปาปา ณ นครวาติกัน ระหว่างการประชุม พระคาร์ดินัลทั้งหมดจะถูกแยกตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลหรือการแทรกแซงจากภายนอก
ปัจจุบัน มีพระคาร์ดินัลที่มีสิทธิลงคะแนนในคอนเคลฟจำนวน 138 คน แม้ตามปกติจำนวนจะถูกจำกัดไว้ที่ 120 คน
การลงคะแนนเป็นไปอย่างเป็นความลับ โดยจะมีพระคาร์ดินัล 9 รูปที่ถูกสุ่มเลือกมาทำหน้าที่ควบคุมดูแลกระบวนการ การจะเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้นั้น ผู้ที่ได้รับเลือกจะต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่า สองในสาม ของจำนวนพระคาร์ดินัลที่เข้าร่วมลงคะแนน
หลังการลงคะแนนแต่ละรอบ บัตรลงคะแนนทั้งหมดจะถูกนำไปเผาพร้อมกับสารเคมีพิเศษ เพื่อส่งสัญญาณให้โลกภายนอกทราบ:
- ควันสีดำ: แสดงว่ายังไม่มีพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือก
- ควันสีขาว: แสดงว่าได้มีการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว
เมื่อได้พระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แล้ว พระคาร์ดินัลอาวุโสที่สุดในบรรดาพระคาร์ดินัลที่อยู่ในสังฆมณฑลโรม (Cardinal Protodeacon) จะประกาศพระนามของพระสันตะปาปาองค์ใหม่จากระเบียงกลางของ มหาวิหารนักบุญเปโตร (St. Peter’s Basilica) ต่อหน้าฝูงชนที่มารวมตัวกันในจัตุรัสเบเนดิกต์
กำหนดการและการเตรียมความพร้อม
โดยทั่วไป การประชุมคอนเคลฟจะเริ่มขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์หรือสละตำแหน่ง เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับพิธีไว้อาลัย 9 วัน หรือที่เรียกว่า ‘โนเวนดีอาเลส’ (Novemdiales) และเพื่อให้พระคาร์ดินัลจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเดินทางมาถึงนครวาติกันได้ทันเวลา
สำหรับการเลือกตั้งพระสันตะปาปาฟรานซิสในปี 2013 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการสละตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 การประชุมคอนเคลฟเริ่มขึ้นเพียง 12 วันหลังจากนั้น
พระคาร์ดินัลไทยกับสิทธิในการลงคะแนน
สำหรับประเทศไทย มีพระคาร์ดินัล 2 รูป คือ:
- พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู: ปัจจุบันมีอายุ 96 ปี ถือเป็นพระคาร์ดินัลบาทหลวงที่อาวุโสที่สุด (Cardinal Protopriest) แต่มีอายุเกินกว่า 80 ปี จึงไม่มีสิทธิเข้าร่วมลงคะแนนในคอนเคลฟ
- พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช: ปัจจุบันมีอายุ 75 ปี มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมคอนเคลฟและลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
การจากไปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถือเป็นการปิดฉากยุคสมัยที่สำคัญของคริสตจักรคาทอลิก และทั่วโลกต่างจับตาดูว่าใครคือผู้ที่จะได้รับเลือกให้มานำพาศาสนจักรแห่งนี้ต่อไป