ชลบุรี – เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ที่โรงแรม นิกโก้ อมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 โดยมี รองผู้บังคับการ และผู้กำกับการสถานีตำรวจต่างๆ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวนกว่า 261 นาย เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้

การสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะทางการบริหารให้กับบุคลากรตำรวจในพื้นที่ ให้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน สามารถวิเคราะห์และแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปลูกฝังภาวะผู้นำที่ทันสมัยและสร้างสรรค์

ภายในงานได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เริ่มต้นด้วย นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) บรรยายในหัวข้อ “อนาคตโลก อนาคตไทย” ซึ่งได้ฉายภาพรวมใหญ่ของแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เห็นถึงบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกและประเทศไทย และเน้นย้ำถึงบทบาทของผู้นำในอนาคตที่ข้าราชการตำรวจต้องสามารถปรับตัวและตามให้ทัน

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก พลตำรวจโท ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บรรยายในหัวข้อ “อนาคตไทยกับความท้าทายของตำรวจ” ซึ่งได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของผู้นำในยุคปัจจุบันที่ต้องไม่เพียงแค่มีความสามารถในการสั่งการ แต่ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านระบบการทำงาน เข้าใจผู้คน และเข้าใจเทคโนโลยี

พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้บรรยายพิเศษและร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ “ตำรวจไทยกับโลกอนาคตที่ AI ขับเคลื่อน” ท่านได้นำเสนอประสบการณ์ตรงและตัวอย่างการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ในการสนับสนุนงานตำรวจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

พล.ต.ท. ยิ่งยศ กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ตำรวจในสังกัดนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับ เช่น การนำ AI Face Recognition หรือเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า มาช่วยในการสแกนค้นหาบุคคลตามหมายจับ หรือใช้ในการเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้ยกตัวอย่างโมเดลความสำเร็จของสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ซึ่งได้พัฒนาระบบวิเคราะห์อาชญากรรมแบบเรียลไทม์ที่สามารถแสดงผลและแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เชื่อมโยงข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการป้องกันปราบปรามและการสืบสวนเป็นไปอย่างแม่นยำและทันต่อสถานการณ์ นี่คือตัวอย่างของการเปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นพลังในการป้องกันปราบปราม

“ตำรวจยุคใหม่เราต้องไม่หยุดพัฒนา” พล.ต.ท. ยิ่งยศ กล่าวทิ้งท้าย “การสัมมนาครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การอัพเดตความรู้ แต่คือการ ‘จุดไฟ’ ให้ผู้นำตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ลุกขึ้นมาคิดใหม่ ทำใหม่ และก้าวไปพร้อมโลก เราต้องรู้ เรียนรู้ เท่าทัน และใช้เทคโนโลยีให้เป็น ให้เกิดประโยชน์ เพื่ออัพเกรดการทำงานของตำรวจให้เป็นตำรวจที่ทันสมัย มีศักยภาพสูง ผลลัพธ์คือการดูแลป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่นต่อตำรวจมากยิ่งขึ้น”