ปฏิบัติการแข่งเวลา! ลากซากเครื่องบินตำรวจตกทะเลเข้าฝั่งสำเร็จ แม้น้ำทะเลหนุนสูง เร่งสอบหาสาเหตุ
เพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ – ความคืบหน้ากรณีเครื่องบินเล็กของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเลบริเวณรอยต่ออำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และสนามบินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2068 ซึ่งส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 6 นาย
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 เมษายน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มปฏิบัติการสำคัญในการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินแบบ DHC6-400 Twin Otter ที่จมอยู่ในทะเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 150 เมตร เพื่อนำขึ้นสู่ฝั่งสำหรับการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยทีมพิสูจน์หลักฐาน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเก็บชิ้นส่วนขนาดเล็กของเครื่องบินที่หลุดลอยอยู่ในทะเลกลับขึ้นฝั่งมาได้ทั้งหมดแล้ว
ปฏิบัติการลากซากเครื่องบินเข้าสู่ชายฝั่งต้องทำงานแข่งกับสภาวะแวดล้อมที่ท้าทาย โดยเฉพาะระดับน้ำทะเลที่เริ่มหนุนสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการผูกเชือกและสลิงเข้ากับตัวเครื่องบิน จากนั้นจึงใช้รถยกติดวิ้นด์สลิงขนาด 30 ตัน ทำหน้าที่หลักในการค่อยๆ ลากดึงซากเครื่องบินเข้าหาฝั่ง โดยมีรถยก 6 ล้ออีกหนึ่งคันคอยช่วยพยุงและควบคุมทิศทาง เพื่อป้องกันไม่ให้รถหลักเกิดการลื่นไถล นอกจากนี้ ยังได้เตรียมรถเทรลเลอร์ขนาด 50 ตันไว้พร้อมสำหรับขั้นตอนสุดท้าย คือการยกซากเครื่องบินขึ้นจากน้ำและเก็บรักษาบนฝั่งอย่างสมบูรณ์
การดำเนินการลากซากเครื่องบินเข้าสู่ชายฝั่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แม้ว่าซากเครื่องบินจะถูกนำมาถึงบริเวณชายหาดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาที่แน่ชัดในการดำเนินการยกซากเครื่องบินขึ้นบนรถเทรลเลอร์และเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่อย่างสมบูรณ์ได้ในขณะนี้ โดยต้องรอการประเมินสถานการณ์และสภาพพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง
หลังจากนี้ ทีมพิสูจน์หลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจสอบสภาพซากเครื่องบินอย่างละเอียดทุกชิ้นส่วน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก