หัวหิน – เกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุตกทะเลบริเวณหาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังนำเครื่องขึ้นได้ไม่นาน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตยกรวม 6 นาย โดย 1 นายเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล

เครื่องบินแบบ Viking DHC-6 Twin Otter ลำดังกล่าวตกห่างจากชายฝั่งประมาณ 100 เมตร ระหว่างกำลังทำการบินทดสอบเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกโดดร่มในพื้นที่อำเภอหัวหิน

พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เครื่องบินกำลังทำการบินทดสอบเพื่อเตรียมการฝึกโดดร่มในพื้นที่อำเภอหัวหิน ก่อนจะประสบอุบัติเหตุตกในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.

รายงานจากคณะผู้สอบสวนระบุว่า เครื่องบินสูญเสียการทรงตัวอย่างรวดเร็วหลังจากทะยานขึ้นจากรันเวย์ แม้นักบินจะพยายามควบคุมเครื่องกลับคืน แต่ก็ไม่เป็นผล เครื่องบินได้ดิ่งลงสู่ทะเล โดยส่วนลำตัวเครื่องบินดูเหมือนจะหักออกเป็นสองท่อนเมื่อกระแทกผิวน้ำ

ในรายงานเบื้องต้น มีการระบุจำนวนผู้เสียชีวิต 6 นาย แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้แก้ไขตัวเลขผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุเหลือ 5 นาย โดยยืนยันว่า ร.ต.ท. จาตุรงค์ วัฒนไพศาล ได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังคงพักรักษาตัวในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลหัวหิน อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งข่าวเศร้าว่า ร.ต.ท. จาตุรงค์ ได้เสียชีวิตในเวลา 15.58 น. หลังจากการผ่าตัดเพื่อหยุดเลือดภายในช่องท้อง เนื่องจากตับได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมจากเหตุการณ์นี้อยู่ที่ 6 นาย

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่เกิดเหตุ และเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอาการเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิต

สำหรับรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิตอีก 5 นาย ประกอบด้วย:

• พ.ต.อ. ประทาน ขำเที่ยง (นักบิน)
• พ.ต.ท. พันเทพ มณีเจริญกุล (นักบิน)
• ร.ต.ท. ธนวัฒน์ เมฆประเสริฐสุข (วิศวกร)
• ส.ต.อ. ประวัติ ผลหงษา (ช่างอากาศยาน)
• ส.ต.ต. จิรวัฒน์ มากสาขา (ช่างอากาศยาน)

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต และกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้

นอกจากนี้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ยังได้กล่าวชื่นชมและยกย่องนักบิน วิศวกร และช่างอากาศยานทุกนาย โดยระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เครื่องบินได้สูญเสียการควบคุมทิศทางและกำลังมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่มีบ้านเรือนประชาชน แต่ทางนักบินได้ตัดสินใจหักเลี้ยวเครื่องบินออกไปทางทะเลเพื่อป้องกันการสูญเสียในหมู่ประชาชนพลเรือน ถือเป็นการเสียสละอย่างแท้จริง

รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการและทีมสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด ในส่วนของการกู้ซากเครื่องบิน ได้มอบหมายให้กองบินตำรวจ, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน, กองบังคับการตำรวจน้ำ และกองบินตำรวจประสานความร่วมมือในการนำซากเครื่องบินขึ้นจากทะเล

คาดว่าปฏิบัติการกู้ซากจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่ก่อให้ความเสียหายต่อหลักฐานที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ย้ำให้เร่งรัดการสอบสวนเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ข้อมูลจากกองบินตำรวจระบุว่า เครื่องบินแบบ DHC6-400 Twin Otter จากประเทศแคนาดา เป็นเครื่องบินลำที่ 36 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเครื่องบินรุ่นนี้จำนวน 3 ลำที่เข้าประจำการในปี 2563 และประจำการอยู่ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

ก่อนหน้านี้ เครื่องบินลำที่ประสบเหตุเคยมีปัญหาที่ปีกและคันบังคับขัดข้อง ซึ่งได้ผ่านการซ่อมแซมตามระบบแล้ว และกำลังทำการบินทดสอบหลังการซ่อมบำรุงเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น

เครื่องบินแบบ DHC-6 Twin Otter เป็นเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีที่สามารถปรับเปลี่ยนภารกิจได้หลากหลาย รวมถึงการลำเลียงทางอากาศ การขนส่งกำลังพล การส่งกลับสายแพทย์ การขนส่งยุทโธปกรณ์ และภารกิจค้นหาและกู้ภัย สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 19 คน และสามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางเตียงพยาบาลได้ 4 เตียง พร้อมที่นั่งสำหรับแพทย์และพยาบาล