ผบ.ตร. สั่งโอนคดี ‘สจ.กอล์ฟ’ รุมทำร้าย ตชด. ให้กองปราบฯ ป้องกันอิทธิพลท้องถิ่น ‘บิ๊กก้อง’ ยันไร้กังวล
กรุงเทพฯ – ความคืบหน้ากรณี นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ “สจ.กอล์ฟ” สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขต 7 จังหวัดสงขลา บุตรชายของ นายสมยศ พลายด้วง หรือ “โกถึก” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมพวกรวม 7 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ดาบตำรวจ นิสาธิต คงเทพ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 (กก.ตชด.43) ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในหน่วยเลือกตั้ง เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวมีบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และอาจส่งผลกระทบต่อการทำคดีของพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และปราศจากอิทธิพลใดๆ จึงได้ลงนามคำสั่งโอนคดีนี้จากสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ซึ่งเป็นเจ้าของคดีเดิม ไปอยู่ในความรับผิดชอบของ กองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) สังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนต่อไป
แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การตัดสินใจโอนคดีสำคัญนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ ผบ.ตร. ที่ต้องการให้คดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ได้รับการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โดยหน่วยงานส่วนกลางที่มีศักยภาพและสามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระ ปราศจากแรงกดดันจากคนในพื้นที่
ด้าน พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) หรือ “บิ๊กก้อง” ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกองบังคับการตำรวจปราบปรามได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ตั้งแต่แรกแล้ว และมีความคุ้นเคยกับข้อมูลเบื้องต้นของคดีเป็นอย่างดี เมื่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีคำสั่งให้กองปราบเป็นผู้รับผิดชอบคดีหลักทั้งหมด ก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที
พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า การทำงานของกองปราบปรามในคดีนี้จะเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ และไม่มีใครสามารถเข้ามาก้าวก่าย หรือใช้อิทธิพลในการบีบคั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างแน่นอน “รับรองว่าไม่มีใครกล้ามาบีบ ไม่มีใครกล้าวิ่งเต้นแน่นอน” พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวย้ำ แสดงถึงความมั่นใจในการทำคดีนี้
สำหรับชนวนเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากความไม่พอใจของ นายสิรดนัย และพวก ที่ ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ตักเตือนและห้ามไม่ให้มีการถ่ายภาพภายในคูหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นข้อห้ามตามกฎหมายเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงและนำไปสู่การทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนในที่สุด
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แล้วรวม 7 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายสิรดนัย พลายด้วง และยังปรากฏหลักฐานเป็นบทสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ ที่เชื่อว่าเป็นการสั่งการจาก นายสิรดนัย ให้ลูกน้องเข้ามารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีข้อความระบุทำนองว่า “เด๋วจัดให้ จัดตอนนี้เลยมั้ย” ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่พนักงานสอบสวนจะใช้ประกอบการดำเนินคดี
การโอนคดีมายังกองปราบปรามในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดการกับคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจและอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน