สีกากีป่วนหนัก! ผกก.โคกเคียน แจ้งจับ ผบช.ภาค 9 – ผบก.นราธิวาส ข้อหาบุกรุกบ้านพัก ทำลายทรัพย์สิน
สถานการณ์ความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงเป็นที่จับตาของสังคมอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดความขัดแย้งในระดับผู้บริหารมาหลายปี ล่าสุด ปัญหาดังกล่าวได้บานปลายลงมาถึงระดับพื้นที่ และกำลังเป็นประเด็นที่สร้างความสับสนและความไม่เชื่อมั่นให้กับประชาชน
เหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความฮือฮาและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เกิดขึ้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อ พันตำรวจเอก วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พลตำรวจตรี ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส โดยกล่าวหาว่าทั้งสองท่านได้ร่วมกันบุกรุกบ้านพักของตนภายในบริเวณสถานีตำรวจ และมีการทำลายประตูบ้านพักจนได้รับความเสียหาย
ข้อกล่าวหานี้สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อว่านายตำรวจระดับผู้บัญชาการและผู้บังคับการจะกระทำการในลักษณะดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม การที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะและกลายเป็นข่าวใหญ่ ก็ยิ่งตอกย้ำภาพปัญหาความไม่ลงรอยภายในองค์กรตำรวจในสายตาประชาชน
สำหรับที่มาของเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณริมกำแพงด้านหลัง สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย หลังเกิดเหตุ พันตำรวจเอก วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.)
ด้านตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกคำแถลงชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การกระทำของพันตำรวจเอก วีรยุทธ ที่แจ้งความและให้ข้อมูลต่อสาธารณะ อาจก่อให้เกิดความเสียหายและความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อองค์กรได้ คำแถลงยืนยันว่า การเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ของ พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ และ พลตำรวจตรี ไมตรี พร้อมคณะ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ภายหลังเกิดเหตุความมั่นคงหลายครั้งในพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานในพื้นที่ยังไม่สามารถควบคุมดูแลให้เกิดความปลอดภัยได้อย่างเพียงพอ
คำแถลงระบุเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบในครั้งนั้นเป็นการตรวจดูสภาพอาคารที่ทำการและบ้านพักของผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ในบริเวณสถานีตำรวจ โดยเป็นการตรวจสอบจากภายนอกเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปภายในบ้านพักแต่อย่างใด และพบว่าสภาพโดยทั่วไปขาดการดูแลเอาใจใส่ การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางราชการ ไม่ได้มีเจตนาจงใจกลั่นแกล้ง พันตำรวจเอก วีรยุทธ แต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ ตำรวจภูธรภาค 9 ยังระบุด้วยว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พันตำรวจเอก วีรยุทธ จากกรณีการให้ข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร และอาจพิจารณาดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งและอาญาต่อไป
เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจที่ยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งยังคงต้องจับตาดูต่อไปว่าเรื่องราวนี้จะคลี่คลายลงในทิศทางใด