ตำรวจจ่อแจ้งข้อหา ‘วิศวกร’ พร้อมอีกกว่า 5 คน คดีอาคาร สตง. ถล่ม – แยกคดีเจ้าพนักงาน
กรุงเทพมหานคร – ความคืบหน้าล่าสุดกรณีเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม พนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี โดยยืนยันว่าขณะนี้การสอบสวนคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% และเตรียมที่จะพิจารณาแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 5 คน ในความผิดที่เกี่ยวข้องกับความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้เกิดอันตรายและถึงแก่ความตาย โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ที่จะถูกดำเนินคดีครั้งนี้คือกลุ่มวิศวกร
รายงานข่าวจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ณ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า ภายหลังการดำเนินการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 100 ปาก ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. ถือเป็นการรวบรวมข้อมูลและพยานบุคคลที่ครอบคลุมอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ การรวบรวมพยานหลักฐานทางกายภาพก็มีความคืบหน้าเช่นกัน โดยได้มีการเก็บตัวอย่างวัสดุสำคัญ อาทิ เหล็ก ปูน และวัตถุพยานอื่นๆ ในที่เกิดเหตุ เพื่อนำส่งให้หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทำการตรวจสอบวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการถล่มและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
จากข้อมูลและพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ พนักงานสอบสวนจึงเตรียมพิจารณาดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่ามีส่วนในการกระทำความผิด ซึ่งเบื้องต้นมีการระบุจำนวนผู้เกี่ยวข้องที่จะถูกแจ้งข้อหาไว้แล้วมากกว่า 5 คน โดยบุคคลเหล่านี้จะถูกแบ่งกลุ่มตามบทบาทและความรับผิดชอบ และเป็นที่น่าสังเกตว่าบางส่วนเคยเข้ามาให้การในฐานะพยานในขั้นตอนก่อนหน้า
หนึ่งในกลุ่มบุคคลสำคัญที่จะถูกดำเนินคดีในครั้งนี้คือกลุ่มผู้มีวิชาชีพด้านวิศวกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้างอาคาร โดยเบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 ซึ่งระบุถึงความผิดของผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่พึงกระทำ อันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น และ มาตรา 238 ซึ่งเป็นความผิดต่อเนื่องหากการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวในฐานะเจ้าพนักงาน คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชี้แจงว่าจะต้องพิจารณาแยกการดำเนินคดีออกไปเป็นอีกกลุ่มต่างหาก โดยจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามกฎหมายอื่นที่ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
การเตรียมแจ้งข้อหาในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการคลี่คลายคดีอาคาร สตง. ถล่ม ซึ่งสร้างความสูญเสียและกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การดำเนินคดีกับผู้มีวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสะท้อนถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่การแยกพิจารณาคดีเจ้าพนักงานก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรอบด้านและโปร่งใส